บล.ภัทร(PHATRA) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 3/2553 เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2553 มีมติให้เสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติแผนการปรับโครงสร้างกิจการ โดยปรับโครงสร้างการถือหุ้นในรูปแบบบริษัทโฮลดิ้ง และการจำหน่ายสินทรัพย์ในส่วนธุรกิจของสายงานลงทุนในบริษัท พร้อมทั้ง การนำหุ้นของบริษัทโฮลดิ้งที่จัดตั้งขึ้นใหม่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แทนหุ้นของบริษัท
ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ ให้เสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการขอเพิกถอนหุ้นของบริษัทจากการเป็น หลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
การปรับโครงสร้างดังกล่าวเพื่อแยกธุรกิจหลักทรัพย์และธุรกิจลงทุนออกจากกันเพื่อให้เกิดความชัดเจนในการประกอบธุรกิจ และป้องกันความเสี่ยงจากการดำเนินธุรกิจของแต่ละธุรกิจให้จำกัดเฉพาะภายใต้บริษัทนั้นๆ เสริมให้การป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ระหว่าง 2 ธุรกิจมีความชัดเจนเพิ่มมากขึ้น และเพื่อให้การบริหารเงินทุนและการบริหารจัดการของแต่ละธุรกิจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งเพิ่มความคล่องตัวในการขยายธุรกิจ และสร้างความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจใหม่ ตลอดจนเปิดโอกาสในการหาผู้ร่วมทุนที่มีความชำนาญเฉพาะในแต่ละธุรกิจ เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน
ภายใต้แผนการปรับโครงสร้างดังกล่าว บริษัทจะดำเนินการให้มีการจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้งซึ่งเป็นบริษัทมหาชนขึ้นเพื่อประกอบธุรกิจทางด้านลงทุน โดยบริษัทโฮลดิ้งจะทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท โดยแลกเปลี่ยนกับหลักทรัพย์ประเภทเดียวกันของบริษัทโฮลดิ้งในอัตราการแลกหลักทรัพย์เท่ากับ 1:1 ซึ่งจะเท่ากับ 1 หุ้นสามัญของบริษัทเท่ากับ 1 หุ้นสามัญของบริษัทโฮลดิ้ง
หลังการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์เป็นผลสำเร็จ หุ้นสามัญของบริษัทโฮลดิ้งจะเข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแทนหุ้นสามัญของบริษัทซึ่งจะถูกเพิกถอนออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนฯ ในเวลาเดียวกัน
สำหรับการดำเนินการเสนอซื้อหุ้นและหลักทรัพย์อื่นที่อาจแปลงสภาพแห่งสิทธิเป็นหุ้นของบริษัทจากผู้ถือหุ้นและผู้ถือหลักทรัพย์เป็นการทั่วไป บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการให้มีการจัดตั้ง บริษัท ทุนภัทร จำกัด (มหาชน) ขึ้นเพื่อเป็นผู้ทำคำเสนอซื้อ โดยมี บริษัท แอดไวเซอรี่ พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาการเงินอิสระ
ปัจจุบัน PHATRA มีจำนวนผู้ถือหุ้นทั้งหมด 2,460 ราย 213,500,000 หุ้น โดยจำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อยที่ถือหุ้นไม่เกินกว่า 5 ใน 1,000 ของทุนเรียกชำระแล้ว แต่ไม่ต่ำกว่า 1 หน่วยการซื้อขาย 2,370 ราย 63,547,192 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 29.76 ของทุนเรียกชำระแล้ว