นายวิเชียร เมฆตระการ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ผู้บริหาร บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส(ADVANC)ชี้แจงผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯว่า จากคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเมื่อวันที่ 26 ก.พ.53 ซึ่งมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับบริษัทอยู่บางประการ ซึ่งต่อมาได้มีการออกมาแสดงความเห็นผ่านสื่อของนักวิชาการบางท่านกล่าวถึงคำตัดสินของศาลฎีกาดังกล่าวว่าเป็นกรณีที่หน่วยงานของรัฐได้รับความเสียหายจากการแก้สัญญาสัมปทานโทรศัพท์มือถือ และเชื่อว่าหน่วยงานของรัฐคงฟ้องร้องทางแพ่งเพื่อเรียกค่าชดเชยเป็นเงินจำนวนมหาศาล ดังนั้น ทางเลือกของบริษัทฯ คือต้องผ่อนชำระค่าชดเชยหากผู้บริหารเห็นว่าธุรกิจนี้ยังมีความสามารถทางธุรกิจ หรือปล่อยให้กิจการล้มละลาย
บริษัทฯ เห็นว่าแม้ความเห็นดังกล่าวจะเป็นดุลพินิจส่วนตัวของผู้ที่มิใช่นักกฎหมาย แต่ก็อาจทำให้ผู้ลงทุนมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนไปเป็นอย่างมากและขาดความเชื่อมั่นในตัวบริษัทฯ จนทำให้ภาพลักษณ์ของบริษัทฯเสียหายอย่างร้ายแรงได้
บริษัทฯ จึงขอชี้แจงว่าคำพิพากษาของศาลฎีกานั้นมิได้มีการวินิจฉัยถึงผลหรือความสมบูรณ์หรือไม่สมบูรณ์ของกฎหมาย หรือมติ ครม.ที่ออกมา หรือข้อตกลงที่ได้ดำเนินการไป ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทฯ แต่อย่างใด โดยผลของคำพิพากษาฎีกานั้นจำกัดอยู่แต่เฉพาะในประเด็นที่ว่าทรัพย์สินบางส่วนของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนั้นเป็นทรัพย์สินที่ได้มาโดยไม่สมควรสืบเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่เท่านั้น
และขณะนี้ก็ยังไม่มีข้อสรุปใดๆ มายังบริษัทฯ ซึ่งหากจะมีการดำเนินการใดๆ ต่อไปของผู้ที่เกี่ยวข้องก็จะต้องเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายและหลักความยุติธรรม และบริษัทฯ จะมีโอกาสที่จะพิสูจน์ข้อเท็จจริงและความสุจริต ซึ่งเชื่อว่าผลที่เกิดขึ้นนั้นจะสร้างความเป็นธรรมให้แก่ บมจ.ทีโอที รวมทั้งบริษัทฯ และผู้ประกอบการโทรคมนาคมรายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง