นางสาวพัชรา ชาติบัญชาชัย เลขานุการ บมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 17 มี.ค.53 มีมติอนุมัติโครงการร่วมลงทุนระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง (Employee Joint Investment Program : EJIP) เป็นโครงการลงทุนซื้อหุ้นของบริษัท สะสมเป็นรายงวด เพื่อเป็นรูปแบบหนึ่งของการให้ผลตอบแทนกับพนักงานของบริษัท และบริษัทย่อย
EJIP มีอายุโครงการตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.53- 31 มี.ค.56 รวมระยะเวลา 3 ปี ผู้ที่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการ ได้แก่ลูกจ้างตั้งแต่ระดับผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายขึ้นไปของกลุ่มซีพีเอฟ โดยเป็นไปตามความสมัครใจของผู้ที่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการ
รูปแบบโครงการ กลุ่มซีพีเอฟจะหักเงินเดือนผู้เข้าร่วมโครงการในอัตราไม่เกิน 5% ของเงินเดือนในแต่ละเดือน จนกว่าจะสิ้นสุดโครงการเพื่อสะสมเข้ากองทุน และกลุ่มซีพีเอฟจะจ่ายสมทบในอัตรา 80% ของเงินที่หักจากผู้เข้าร่วมโครงการทุกเดือน โดย บล.ทิสโก้ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนดำเนินการ จะนำเงินในกองทุนดังกล่าวไปซื้อหุ้น CPF ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และ เงื่อนไขที่กำหนดไว้ในข้อกำหนดและเงื่อนไขของโครงการที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
ทั้งนี้ภายหลังจากโครงการมีอายุครบ 1 ปี หรือตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.54 เป็นต้นไป ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถขายหุ้นได้ในจำนวนไม่เกินครึ่งหนึ่งของจำนวนหุ้นที่ซื้อเข้าในบัญชีของ ผู้เข้าร่วมโครงการแต่ละราย และภายหลังครบกำหนดโครงการ 3 ปี สามารถขายหุ้นจำนวนที่เหลือได้ทั้งหมด
นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติการเข้าลงทุนในทุนจดทะเบียนเพิ่มทุนของบริษัทย่อย คือ Charoen Pokphand Foods (Overseas) LLC. ซึ่งดำเนินธุรกิจผลิตอาหารสัตว์และเลี้ยงสัตว์ โดยการเพิ่มทุนจดทะเบียน 1,000 ล้านรูเบิ้ล หรือประมาณ 1,118 ล้านบาท ซึ่งจะมีผลทำให้โครงสร้างการถือหุ้นเปลี่ยนแปลง จากเดิม CPF Europe S.A. (CPF EU) ถือหุ้น 100% โดย CPF EU เป็นบริษัทย่อยที่ CPF ถือหุ้นทางอ้อม 99.99% และภายหลังการเพิ่มทุน CPF EU ถือหุ้น 28.6% CPF ถือหุ้น 71.4%