นายวรกิจ สร้างศรีวงศ์ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.บีฟิท(BSEC)เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) เพื่อขอระงับการประกอบธุรกิจที่ปรึกษาทางการเงินเป็นการชั่วคราว มีผลตั้งแต่ วันที่ 1 ก.พ.53 เป็นต้นไป จนกว่าบริษัทฯ จะหาบุคลากรเพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมการปฏิบัติงานในสายงานที่ ปรึกษาทางการเงินที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามประกาศของของสำนักงาน ก.ล.ต. ได้
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงประกอบธุรกิจการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหลักทรัพย์ต่อไปตามปกติ
บล.บีฟิท ได้รับความเห็นชอบเป็นที่ปรึกษาทางการเงินจาก สำนักงาน ก.ล.ต. โดยจะครบกำหนดการให้ความเห็นชอบในวันที่ 21 มี.ค.55 นั้น แต่ปัจจุบันบริษัทฯ ขาดบุคลากรเพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมการปฏิบัติงานในสายงานที่ปรึกษาทางการเงิน
จากงบการเงินเฉพาะของบริษัทฯ ปี 51-52 ตรวจสอบแล้วโดยผู้สอบบัญชี และงบการเงินเฉพาะของบริษัท ไตรมาส 1/53 ก่อนสอบทานโดยผู้สอบบัญชี ปรากฏสัดส่วนรายได้ของสายงานวาณิชธนกิจในปี 51-52 สัดส่วนรายได้สายงานวานิชธนกิจคิดเป็นร้อยละ 3.15 และ 1.55 ของรายได้รวมตามลำดับ ซึ่งไม่ถือเป็นรายได้หลักที่มีนัยสำคัญของบริษัทฯ
ในขณะที่เมื่อพิจารณาถึงการทำกำไรของสายงานวานิชธนกิจปรากฏว่ามีผลประกอบการขาดทุนโดยมีมูลค่าขาดทุน 5.60 ล้านบาท และ 16.50 ล้านบาทในปี 51 และ 52 ตามลำดับทั้งนี้ เนื่องจากสายงานวาณิชธนกิจมีค่าใช้จ่ายสูงมาโดยตลอด โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน
ดังนั้น ในปี 53 ภายหลังจากที่บริษัทฯ ได้ขอระงับธุรกิจการเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ทำให้ในไตรมาส 1/53 บริษัทฯ ไม่มีรายได้จากสายงานวานิชธนกิจ คงมีเพียงค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับสายงานนี้จำนวน 0.65 ล้านบาท ซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนนี้มีแนวโน้มลดลงในไตรมาสต่อไป