บอร์ด TRU อนุมัติซื้อหุ้นคืนวงเงินไม่เกิน 150 ลบ.ตั้งแต่ 27พ.ค.-26พ.ย.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 6, 2010 09:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายศักดิ์ชัย คมกฤส เลขานุการ บมจ. ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ จำกัด(TRU)เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 2/53 เมื่อวันที่ 4 พ.ค.53 มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ ซื้อหุ้นคืนเพื่อการบริหารทางการเงิน (Treasury stock) ในจำนวนไม่เกิน 50,158,949 หุ้น หรือไม่เกิน 10% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท หรือในวงเงินไม่เกิน 150 ล้านบาท โดยซื้อในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กำหนดระยะเวลาที่จะซื้อหุ้นคืนตั้งแต่วันที่ 27 พ.ค.-26 พ.ย.53

หลักเกณฑ์ในการกำหนดราคาหุ้นที่จะซื้อคืน โดยให้นำราคาหุ้นเฉลี่ยย้อนหลัง 30 วันก่อนวันที่บริษัทจะทำการเปิดเผยข้อมูลมาประกอบการพิจารณากำหนดราคาหุ้นด้วย ราคาซื้อคืนจะไม่เกินกว่าราคาปิดของหุ้นเฉลี่ย 5 วันทำการซื้อขายก่อนหน้าวันที่หน้านั้น บวกด้วยจำนวน 15%ของราคาปิดเฉลี่ยดังกล่าว ทั้งนี้ราคาหุ้นเฉลี่ยย้อนหลัง 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค.-30 เม.ย.53 เท่ากับ 2.68 บาท/หุ้น

สำหรับแหล่งเงินทุนที่ใช้ เนื่องจากบริษัทและบริษัทย่อยไม่มีหนี้สินที่เกิดจากการกู้ยืมจากสถาบันการเงินที่ถึงกำหนดชำระภายใน 6 เดือน นับแต่วันที่จะซื้อหุ้นคืนแต่อย่างใด และบริษัทยังมีอัตราส่วนสภาพคล่อง (Current Ratio) สูงถึง 3.80 เท่า ซึ่ง ณ วันที่ 31 มี.ค.53 บริษัทยังคงมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดเท่ากับ 371.17 ล้านบาท และมีเงินลงทุนในเงินฝากประจำและตั๋วแลกเงินธนาคารในประเทศบางแห่งรวม 130 ล้านบาท ที่ถึงกำหนดไถ่ถอนคืนภายใน 6 เดือน บริษัทจึงมีสภาพคล่องเพียงพอในการชำระหนี้สินระยะสั้นข้างต้น และยังมีเงินสดคงเหลือเพียงพอที่จะนำมาใช้ในการซื้อหุ้นคืนตามโครงการ

ส่วนเหตุผลในการซื้อหุ้นคืน เพื่อเป็นการบริหารสภาพคล่องส่วนเกินของบริษัทฯ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อเพิ่มอัตราผลตอบแทนให้แก่ส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) รวมถึงเพิ่มอัตรากำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) เป็นการส่งสัญญาณแก่ผู้ลงทุนถึงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ

นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ ขยายระยะเวลาให้กู้ยืมเงินแก่บริษัท อีซูซุชัยเจริญกิจมอเตอร์ส จำกัด วงเงิน 60 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการทำธุรกิจ และสนับสนุนการขายรถของบริษัท โดยการขยายวงเงินกู้ยืมออกไปอีก 1 ปี ตั้งแต่ 21 พ.ค.53-20 พ.ค.54 โดยจัดทำเป็นตั๋วสัญญาใช้เงิน ซึ่งแต่ละฉบับมีระยะเวลาการกู้ครั้งละไม่เกิน 1 ปี และไม่เกินวันที่ 20 พ.ค.54 โดยสามารถต่ออายุตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือคืนเงินกู้ก่อนครบกำหนดได้ และเงื่อนไขในการคิดดอกเบี้ยขึ้นกับต้นทุนของแหล่งเงินทุนที่นำมาให้กู้ แบ่งเป็น 2 กรณี ดังนี้

กรณีต้นทุนมาจากเงินฝากของบริษัท:อิงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1 ปี (อัตราเฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ใหญ่ 5 แห่ง) ณ ช่วงเวลานั้นๆ บวก 1% (อัตราดอกเบี้ย ณ วันที่ทำรายการ เท่ากับ 1.71% ต่อปี)

กรณีต้นทุนมาจากเงินกู้จากสถาบันการเงิน:อิงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ Market Rate ของตั๋วสัญญาใช้เงิน (ระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี) ณ ช่วงเวลานั้นๆ บวก 1% (อัตราดอกเบี้ย ณ วันที่ทำรายการเท่ากับ 4.80% ต่อปี) หรือเทียบเท่า 2.75%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ