STA เผย Q1/53 กำไรพุ่งกว่า 400% จากปริมาณ-ราคาขายโตตามทิศทางอุตฯรถยนต์

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday May 7, 2010 10:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี(STA)ชี้แจงผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 1/53 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2553 มีกำไรสุทธิ 1,100 ล้านบาท หรือ กำไรต่อหุ้น 5.5 บาท เทียบกับปีก่อนมีกำไรสุทธิ 215 ล้านบาท หรือ กำไรต่อหุ้น 1.07 บาท

ราคาขายเฉลี่ยของบริษัทอยู่ที่ 2,700-3,100 เหรียญสหรัฐอเมริกาต่อตัน อ้างอิงราคาเฉลี่ยยางแท่ง TSR และยางแผ่นรมควัน RSS ตลาด SICOM ไตรมาส 1/53 อยู่ที่ 3,098 และ 3,186 เหรียญสหรัฐอเมริกาต่อตัน เทียบกับราคาเฉลี่ยไตรมาส 1/52 อยู่ที่ 1,328 และ 1,461 เหรียญสหรัฐอเมริกาต่อตัน ราคา SICOM ปรับตัวเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดถึงอัตราร้อยละ 118-133 และร้อยละ 23-24 เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/52

บริษัทยังคงได้รับผลดีอย่างต่อเนื่องจากการฟื้นตัวที่ชัดเจนของเศรษฐกิจภาคพื้นเอเชียตลอดจน ถึงแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ทั่วโลกในปีที่ผ่านมา ส่งผลถึงตัวเลขในกลุ่มยานยนต์ที่มียอดขายเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ทิศทางของอุตสาหกรรมยางล้อจึงเป็นไปในทิศทางเดียวกันคือยังคงดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปี 52 โดยเฉพาะประเทศจีนที่อุตสาหกรรมรถยนต์ยังคงขยายตัวในอัตราที่สูงมากกว่าร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีที่ผ่านมา ยอดจำหน่ายของบริษัทในไตรมาสนี้จึงปรับตัวสูงขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/52 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เศรษฐกิจโลกกำลังก้าวเข้าสู่จุดต่ำสุด

บริษัทมีปริมาณการขายรวมในไตรมาส 1/53 จำนวน 211,129 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 27 จากไตรมาส 1/52 และลดลงร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/52 มีรายได้จากการขายและบริการรวมเป็นเงิน 19,172 ล้านบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 113 จากไตรมาส 1/52 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 22 เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/52 จากความต้องการของผู้ใช้ในอุตสาหกรรมยางล้อที่มีอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ราคายางปรับตัวสูงขึ้นอีกร้อยละ 26 เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/52 และปรับตัวสูงแบบก้าวกระโดดถึงร้อยละ 90 เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/52 เป็นราคาสูงสุดในรอบกว่า 1 ปี หลังจากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลก

ระดับอัตราแลกเปลี่ยนแข็งค่าขึ้นร้อยละ 7 หรือ 2.44 บาทต่อเหรียญสหรัฐอเมริกาเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/52 คือจากระดับ อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย 35.29 แข็งค่ามาอยู่ที่ 32.85 บาทต่อเหรียญสหรัฐอเมริกา ระดับราคาต้นทุนขายก็ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นตามภาวะ ตลาดเช่นเดียวกัน

บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากอัตราร้อยละ 7.9 เป็นร้อยละ 8.0 มีกำไรขั้นต้น 1,538 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนมีกำไรขั้นต้น 716 ล้านบาทเมื่อหักค่าใช้จ่ายขายบริหารรวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 79 ล้านบาทที่บริษัทยังคงได้รับประโยชน์ จากการป้องกันความเสี่ยงโดยมีสัญญาขายเงินตราต่างประเทศไว้ล่วงหน้า และรวมส่วนแบ่งผลกำไรในบริษัทร่วม 190 ล้านบาท บริษัทมีกำไรก่อนต้นทุนทางการเงินและภาษีเงินได้ 1,284 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ