นางสาวกรนันท์ สุคนธ์ฤทธิกร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. วินโคสท์ อินดัสเทรียล พาร์ค (WIN) แจ้งว่า บริษัทฯ ได้รับแจ้งจาก บริษัท วินโคสท์ โลจิสติกส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือที่ WIN ถือหุ้น 99% เมื่อวันที่ 6 พ.ค.53 ว่าในเบื้องต้นศาลล้มละลายกลางมีคำวินิจฉัยยกคำร้องขอให้ฟื้นฟูกิจการของบริษัทวินโคสท์ โลจิสติกส์ จำกัด เนื่องจากศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าสัญญาเช่าพื้นที่ ระหว่างบริษัทย่อยกับการนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ได้สิ้นสุดลง เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ตามจดหมายแจ้งของทางการนิคมอุตสาหกรรมฯ
รวมทั้ง บริษัทย่อยไม่มีแหล่งเงินทุนจากที่ใดอีก และยังไม่ปรากฎว่ามีผู้สนใจร่วมลงทุนกับบริษัทย่อย ทั้งปัจจุบันบริษัทย่อยได้หยุดประกอบกิจการการรับขนส่งทางรถไฟแล้ว กรณีไม่มีเหตุสมควรและไม่มีช่องทางที่จะฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 90/10 ศาลจึงมีคำสั่งให้ยกคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทย่อย
ทั้งนี้ ในประเด็นข้อเท็จจริงที่ปรากฏว่า บริษัทย่อยได้ยื่นคำร้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ และศาลล้มละลายกลางได้รับคำร้องดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค.52 ทำให้สัญญาดังกล่าวได้คงสภาพโดยอัตโนมัติ (Automatic Stay) รวมทั้งปรากฏว่า เมื่อวันที่ 25 ม.ค.53 ทางการนิคมอุตสาหกรรมฯ ได้เรียกเก็บเงินค้ำประกันจากทางธนาคารที่ทางบริษัทได้วางไว้กับการนิคมอุตสาหกรรม เมื่อวันเริ่มทำสัญญาเช่า และออกใบเสร็จรับเงินระบุว่าเป็นค่าเช่าพื้นที่ให้กับบริษัทย่อย ส่งผลให้บริษัทย่อยยังคงสถานะในการครอบครองพึ้นที่เช่าจนถึงวันที่ 31 ส.ค.53
ระหว่างนี้หากบริษัทย่อยสามารถบรรลุข้อตกลงกับการนิคมอุตสาหกรรมฯ รวมถึงเจ้าหนี้รายอื่นๆ ได้ อีกประเด็นหนึ่งการขนส่งทางรถไฟนั้นเป็นการขนส่งที่มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับแนวนโยบายทางภาครัฐที่ต้องการเพิ่มการขนส่งทางรางให้มากขึ้นเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับผู้ส่งออกและสามารถลดค่าใช้จ่ายทางโลจิสติกส์ลง และสามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ บริษัทย่อยยังมีความตั้งใจที่จะกลับมาให้บริการขนส่งทางรถไฟอีกครั้ง
ปัจจุบัน WIN ประกอบธุรกิจหลัก 4 ธุรกิจ ดังนี้ 1. การให้บริการเช่าพื้นที่เขตปลอดอากร 2. ให้บริการเรื่องหัวลาก 3. ตัวแทนขายค่าระวางเรือ (Freight Forwarder) 4. โครงการกำจัดขยะ
และแม้ว่ารายได้หลักของบริษัทฯ จะมาจากธุรกิจการขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟระหว่างเขตนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด กับท่าเรือแหลมฉบัง แต่รายจ่ายหลักของบริษัทฯ ก็คือค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานส่วนนี้เช่นกัน เมื่อบริษัทฯ ไม่ต้องให้การสนับสนุนทางการเงินแก่บริษัทย่อยบริษัทฯ คาดว่าทิศทางของธุรกิจของบริษัทจะชัดเจนและมีทิศทางที่ดีขึ้น
บริษัทฯ ได้ประมาณการสัดส่วนรายได้ของธุรกิจหลักของปี 53 คือ การให้บริการเช่าพื้นที่เขตปลอดอากร 55% ให้บริการเรื่องหัวลากและตัวแทนขายค่าระวางเรือ 22% โครงการกำจัดขยะ 23% ซึ่งจะเห็นได้ว่าบริษัทฯ ยังมีธุรกิจที่สามารถก่อให้เกิดรายได้ที่เป็นรูปธรรมที่ชัดเจนรวมถึงบริษัทฯ ยังมีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ และการหาผู้ร่วมลงทุนรายใหม่ก็ยังอยู่ในแผนงาน ดังนั้น บริษัทฯ จึงมีความมั่นใจว่าจะสามารถนำพาบริษัทฯ ผ่านพ้นวิกฤตการณ์ได้ในที่สุด
อย่างไรก็ตาม บริษัท วินโคสท์ โลจิสติกส์ จำกัด ยังมีความตั้งใจที่จะเสนอแผนธุรกิจและแผนปรับโครงสร้างกับเจ้าหนี้ โดยมีความประสงค์จะยื่นเข้าแผนฟื้นฟูกิจการอีกครั้งเพื่อให้ศาลพิจารณารับเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการดำเนินงาน เมื่อมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ผู้ลงทุนทราบต่อไป
อนึ่ง บริษัท วินโคสท์ โลจิสติกส์ จำกัด ได้ยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลาง เพื่อขอเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ เมื่อวันที่ 14 ต.ค.52 โดยศาลได้รับคำร้องและนัดฟังคำพิพากษา ในวันที่ 30 มี.ค.53 นั้น แต่เนื่องจากศาลมิได้อ่านรายละเอียดของคำวินิจฉัย ดังนั้นทนายความผู้รับผิดชอบคดีจึงต้องดำเนินการคัดรายละเอียดในการพิจารณา และคำวินิจฉัยของศาลในภายหลัง ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 25-30 วัน จึงจะสามารถคัดคำวินิจฉัยดังกล่าวได้