บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์(ประเทศไทย)(DELTA) ชี้แจงผลการดำเนินงานไตรมาสแรกของปี 53 (ม.ค-มี.ค.53) ยอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.7 จากจำนวน 6,359 ล้านบาทของไตรมาสเดียวกันปีก่อน เป็น 7,545 ล้านบาทในไตรมาสนี้ เนื่องจากปัจจุบันความต้องการในตลาดสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ค่อนข้างสูง
บริษัทฯ สามารถทำยอดขายได้เพิ่มขึ้นเกือบทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (ประกอบด้วยพัดลมระบายความร้อนและ EMI filter) ซึ่งมียอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 33 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน นอกจากนี้ยังมีกลุ่ม IT Power ที่มียอดขายเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 55 และกลุ่มของ DC-DC converter และ DES ที่มียอดขายเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 25-30
แต่อย่างไรก็ตาม กลุ่มผลิตภัณฑ์ Telecom Power กลับมียอดขายลดลงกว่าไตรมาสเดียวกันปีก่อนร้อยละ 9.5 เนื่องจากการขาดแคลนวัตถุดิบแต่อย่างไรก็ดีบริษัทฯคาดว่าประมาณไตรมาสที่สองหรือสามของปีนี้สถานการณ์ดังกล่าวอาจจะคลี่คลายขึ้นตามลำดับ
อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาสแรกปี 53 ปรับตัวสูงขึ้นร้อยละ 1.8 จากร้อยละ 25.9 ของไตรมาสแรกปี 52 เป็นร้อยละ 27.7 โดยค่าใช้จ่ายจากการขายและดำเนินงาน (SG&A) ไม่รวมค่าวิจัยและพัฒนามีจำนวนเพิ่มขึ้นร้อยละ 17 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน แต่จากการที่บริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายเพิ่มสูงขึ้น ทำให้อัตราค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่อยอดขาย (%SG&A/sales) ลดลงเล็กน้อยจากร้อยละ 11.4 ในไตรมาสเดียวกันปีก่อนเป็นร้อยละ 11.3 ส่วนค่าวิจัยและพัฒนา ในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีก่อนประมาณร้อยละ 14 แต่ยังคงสัดส่วนต่อยอดขายที่ใกล้เคียงกับปีก่อนคือ มีอัตราร้อยละ 5.7 ของยอดขายเมื่อเทียบกับร้อยละ 6 ของยอดขายในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
และจากการที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ค่อนข้างสูงตามที่ได้กล่าวข้างต้น ทำให้อัตรากำไรจากการดำเนินงานในไตรมาสนี้เพิ่มสูงขึ้นจากร้อยละ 8.5 ในไตรมาสแรกของปีก่อนเป็นร้อยละ 10.6 และเมื่อรวมกับกำไรจากการลงทุนจำนวน 104 ล้านบาท ทำให้กำไรสุทธิในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 75 โดยเพิ่มจากจำนวน 511 ล้านบาทในไตรมาสแรกของปีก่อนเป็น 893.5 ล้านบาท และมีอัตรากำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้นจาก 0.41 บาทเป็น 0.72 บาท