SPALI แจงรายได้ Q1/53 โต 53% จากยอดขายเพิ่มขึ้น-มาตรการภาษีอสังหาฯ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday May 11, 2010 18:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางวารุณี ลภิธนานุวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานการเงินและบัญชี บมจ.ศุภาลัย(SPALI) ชี้แจงผลการดำเนินงานของบริษัท ฯ และบริษัทย่อย ไตรมาส 1/53 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.53 ว่า บริษัทมีรายได้รวม 3,194.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 53% เนื่องจากยอดขายเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งมาตรการการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ส่งผลให้บริษัทฯและบริษัทย่อยมีรายได้และกำไรสุทธิสูงกว่าไตรมาสอื่นๆที่ผ่านมา

รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์เท่ากับ 3,110.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 1,071.89 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 53% แบ่งเป็นรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์อาคารชุด 44% และที่เหลือ 56% เป็นรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์บ้านและทาวน์เฮ้าส์ ส่วนรายได้รวมก็เพิ่มขึ้นจาก 2,094.19 ล้านบาทของงวดเดียวกันของปีก่อนเป็น 3,194.26 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 1,100.07 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 53%

แม้ว่าบริษัทฯและบริษัทย่อยจะเปิดโครงการเพิ่มขึ้นหลายโครงการ แต่ก็ยังคงควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารให้ใกล้เคียงกับงวดเดียวกันของปีก่อนได้ กล่าวคือ เท่ากับ 175.41ล้านบาท คิดเป็น 5% ของรายได้รวม ขณะที่ในงวดเดียวกันของปีก่อนเท่ากับ 124.39 ล้านบาท คิดเป็น 6% ของรายได้รวม

และผลสืบเนื่องจากยอดขายโครงการแนวราบที่เพิ่มขึ้นมาก มีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงคืออยู่ในอัตรา 44% อันเกิดจากการควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ทำให้ผลประกอบการของไตรมาสนี้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 831.44 ล้านบาท ขณะที่ในงวดเดียวกันของปีก่อนเท่ากับ 541.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 290.33 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 54% กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐานเท่ากับ 0.48 บาท/หุ้น เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ที่ 0.34 บาท/หุ้น หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 41%

จากผลของการโอนกรรมสิทธิ์จำนวนมาก ทำให้บริษัทฯและบริษัทย่อยมีสภาพคล่องสูงจึงคืนหนี้เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้อัตราหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Net gearing ratio) ณ วันที่ 31 มี.ค.53 ลดลงจาก 37% เมื่อสิ้นปี 52 มาอยู่ที่ 24%

อนึ่ง ณ วันที่ 31 มี.ค.53 บริษัทฯ มียอดสัญญาที่ลูกค้าซื้อบ้านและ/หรืออาคารชุดพักอาศัยแล้วแต่ยังไม่ถึงกำหนดโอนให้ลูกค้า 18,316 ล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถทยอยโอนให้ลูกค้าได้ในอีก 9 เดือนข้างหน้า จำนวน 5,968 ล้านบาท (คิดเป็น 81% ของเป้าการโอนกรรมสิทธิ์ของปี 53 ที่ 11,000 ล้านบาท) ในปี 54 จำนวน 5,860 ล้านบาท ในปี 55 จำนวน 3,689 ล้านบาท และในปี 56จำนวน 2,799 ล้านบาท

ทั้งนี้ ยอดสัญญาที่รอส่งมอบหมายถึงยอดจำนวนเงินรวมของบ้านและ/หรืออาคารชุดพักอาศัยที่รอโอนซึ่งบริษัทฯจะทยอยรับรู้รายได้ในอนาคตตามมาตรฐานการบัญชีคือรับรู้รายได้เมื่อโอนกรรมสิทธิ์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ