นายธนฑิต เจริญจันทร์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บมจ.ไทยคม(THCOM)แจ้งว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 1/53 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.53 มีรายได้รวม จำนวน 1,814 ล้านบาท และมีขาดทุนสุทธิรวม 157 ล้านบาท
รายได้รวมในไตรมาส 1/53 เพิ่มขึ้น 49 ล้านบาท หรือ 2.8% เมื่อเปรียบเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนที่มีจำนวน 1,765 ล้านบาท เป็นผลมาจากรายได้จากธุรกิจบริการดาวเทียมและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับดาวเทียม มีทั้งสิ้น 1,198 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 117 ล้านบาท หรืออัตรา 10.8% เมื่อเปรียบเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนจำนวน 1,081 ล้านบาท เนื่องจากรายได้จากการให้บริการไอพีสตาร์ที่เพิ่มขึ้นตามปริมาณการใช้งานแบนด์วิธที่เพิ่มขึ้น และการเติบโตของรายได้จากธุรกิจการแพร่สัญญาณโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม
รายได้จากธุรกิจอินเทอร์เน็ตและสื่อจำนวน 134 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48 ล้านบาท หรืออัตรา 55.8% เมื่อเปรียบเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนจำนวน 86 ล้านบาท เนื่องจากมียอดจำหน่ายจานและอุปกรณ์การรับสัญญาณโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม (DTV) เพิ่มขึ้น และรายได้จากธุรกิจให้บริการระบบโทรศัพท์ในต่างประเทศ มีจำนวน 452 ล้านบาท ลดลง 139 ล้านบาท หรืออัตรา 23.5% เมื่อเปรียบเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน ที่มีจำนวน 591 ล้านบาท
ค่าใช้จ่ายรวม มีจำนวน 1,908 ล้านบาท ลดลง 54 ล้านบาท หรืออัตรา 2.8% เมื่อเปรียบเทียบกับะยะเวลาเดียวกันของปีก่อน ที่มีจำนวน 1,962 ล้านบาท ทั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 29 ล้านบาท ลดลง 81 ล้านบาท จากไตรมาส 1/52 ที่ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 110 ล้านบาท
ต้นทุนการให้บริการโทรศัพท์ มีจำนวน 356 ล้านบาท ลดลง 35 ล้านบาท หรืออัตรา 9% จากไตรมาส 1/52 ที่มีจำนวน 391 ล้านบาท เนื่องจาก บริษัท เอ็มโฟน จำกัด (Mfone) มีต้นทุนค่าเสื่อมราคาของสินทรัพย์ที่ลดลงจากการที่ในไตรมาส 1/52 มี one-time write off ประมาณ 3.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่ บริษัท ลาวเทเลคอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด (LTC) มีค่าเสื่อมราคาซึ่งเป็นผลมาจากสินทรัพย์ที่เพิ่มมากขึ้นจากการขยายโครงข่ายโทรศัพท์ และการเพิ่มขึ้นของต้นทุนการบริการโทรข้ามแดนอัตโนมัติ
ต้นทุนในการให้บริการวงจรดาวเทียมและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง มีจำนวน 1,046 ล้านบาท ลดลง 17 ล้านบาท หรืออัตรา1.6% จากไตรมาส 1/52 ที่มีจำนวน 1,063 ล้านบาท สาเหตุหลักจากการลดลงของค่าเสื่อมราคาจากการที่ในไตรมาส 1/53 ไม่มีต้นทุนค่าเสื่อมราคาของดาวเทียมไทยคม 1A เนื่องจากมีการตัดค่าเสื่อมราคาเต็มมูลค่าแล้วตั้งแต่เดือน ก.พ.52 และไม่มีต้นทุนค่าเสื่อมราคาของดาวเทียมไทยคม 2 จากการตัดค่าเสื่อมราคาเต็มมูลค่าแล้วตั้งแต่เดือน ธ.ค.52
การลดลงของต้นทุนขาย UT และการลดลงของต้นทุนค่าเบี้ยประกันภัยดาวเทียม สุทธิกับการเพิ่มขึ้นของต้นทุนการให้บริการจัดหาอุปกรณ์สำหรับจัดตั้งเครือข่ายสื่อสารผ่านดาวเทียมตามรายได้ที่เพิ่มขึ้น และต้นทุนค่าเช่าช่องสัญญาณดาวเทียมที่เพิ่มขึ้นจากการย้ายลูกค้าบางส่วนจากดาวเทียมไทยคม 1A ไปที่ดาวเทียมดวงอื่น
ต้นทุนการให้บริการอินเทอร์เน็ตและสื่อ 123 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56 ล้านบาท หรืออัตรา 83.6% จากไตรมาส 1/52 ที่มีต้นทุน 67 ล้านบาท เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนจากการจำหน่าย DTV ตามยอดขายที่เพิ่มขึ้น, ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 354 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23 ล้านบาท หรืออัตรา 6.9% จาก 331 ล้านบาท ในไตรมาส 1/52 มีสาเหตุหลักจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายพนักงาน การเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายทางการตลาดของธุรกิจดาวเทียมและค่าโฆษณาของ LTC สุทธิกับการลดลงของค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ
ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม มีทั้งสิ้น 37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11 ล้านบาท หรืออัตรา 42.3% จาก 26 ล้านบาท ในไตรมาส 1/52 สาเหตุหลักเนื่องจาก บมจ.ซี เอส ล็อกซอินโฟ (CSL) มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นประมาณ 45.8%
ต้นทุนทางการเงิน มีจำนวน 123 ล้านบาท ลดลง 11 ล้านบาท หรืออัตรา 8.2% จาก 134 ล้านบาท ในไตรมาส 1/52 เนื่องจากดอกเบี้ยที่ลดลงจากการจ่ายชำระคืนเงินต้นของโครงการดาวเทียมไทยคม 4 (ไอพีสตาร์) และโครงการดาวเทียมไทยคม 5 ในปี 2552 และการจ่ายชำระคืนเงินต้นของ DTV สุทธิกับดอกเบี้ยจากหุ้นกู้ระยะยาว
ในไตรมาส 1/53 บริษัทฯ บันทึกภาษีเงินได้เป็นรายได้ทั้งสิ้น 25 ล้านบาท ซึ่งลดลง 57 ล้านบาท จาก 82 ล้านบาท ในไตรมาส 1/52