DTC เผย Q1/53 กำไรโต 222% จากรายได้การขาย-บริการดีขึ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday May 17, 2010 14:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสินี เธียรประสิทธิ์ เลขานุการ บมจ. ดุสิตธานี (DTC) ชี้แจงผลการดำเนินงานในงบการเงินรวม สำหรับไตรมาสที่ 1/53 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.53 ว่า ผลประกอบการเดือน ม.ค.-ก.พ.ของบริษัทดีขึ้นจากปีก่อนโดยมีรายได้เพิ่มขึ้น 13% แต่ในเดือนมี.ค.ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองในประเทศ ส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมชะลอตัวลงอีกระลอกหนึ่ง ลูกค้าที่ได้สำรองการใช้บริการทั้งห้องพักและจัดเลี้ยงไว้ล่วงหน้า ขอยกเลิกการใช้บริการ โดยเฉพาะที่โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ และโรงแรมรอยัลปริ๊นเซส หลานหลวง ทำให้ผลประกอบการของบริษัทเริ่มลดลง

อย่างไรก็ตาม ไตรมาสที่ 1/53 บริษัทมีรายได้รวมจำนวน 865.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 7% และมีกำไรสุทธิ จำนวน 81.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 56.43 ล้านบาท คิดเป็น 222% เมื่อหักส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยจำนวน 1.97 ล้านบาทแล้ว มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่จำนวน 79.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 56.78 ล้านบาท คิดเป็น 245%

บริษัทมีรายได้จากการขายและการให้บริการจำนวน 799.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 60.04 ล้านบาท คิดเป็น 8% ประกอบด้วยรายได้จากโรงแรมในกลุ่มดุสิตธานี เพิ่มขึ้น 36.77 ล้านบาท คิดเป็น 9% กลุ่มดุสิตปริ๊นเซส ลดลง 8.96 ล้านบาท คิดเป็น 7% ดุสิตดีทู ลดลง 1.11 ล้านบาท คิดเป็น 6% ดุสิตธานีมะนิลา เพิ่มขึ้น 26.73 ล้านบาท คิดเป็น 17% และรายได้จากธุรกิจอาคารพาณิชย์ให้เช่าธุรกิจสปา การศึกษา ฝึกอบรม และอื่นๆ เพิ่มขึ้น 6.61 ล้านบาท คิดเป็น 21%

ต้นทุนขายและการให้บริการรวมจำนวน 527.07 ล้านบาท คิดเป็น 66% ของรายได้จากการขายและการให้บริการ มีอัตราส่วนที่ลดลงเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีจำนวน 512.81 ล้านบาท คิดเป็น 69% ของรายได้จากการขายและการให้บริการ หลังหักต้นทุนขายและการให้บริการแล้ว มีกำไรขั้นต้นจำนวน 272.77 ล้านบาท คิดเป็น 34% ของรายได้จากการขายและการให้บริการ เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีจำนวน 226.98 ล้านบาท คิดเป็น 31% ของรายได้จากการขายและการให้บริการ

บริษัทมีรายได้อื่นๆ จำนวน 65.69 ล้านบาทลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 4.78 ล้านบาท ประกอบด้วย รายได้ค่าบริหารงานจำนวน 28.27 ล้านบาทลดลง 4.68 ล้านบาท สืบเนื่องจากเหตุวิกฤตเศรษฐกิจการเงินในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ส่งผลกระทบต่อธุรกิจโรงแรมในประเทศดังกล่าว และปัญหาทางการเมืองภายในประเทศ ทำให้โรงแรมที่บริษัทรับจ้างบริหารทั้งในและต่างประเทศมีรายได้ลดลง รายได้ค่าบริหารจึงลดลงเช่นกัน รายได้อื่นๆ ได้แก่ดอกเบี้ยรับ เงินปันผล และอื่นๆ รวมจำนวน 37.43 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 0.09 ล้านบาท

บริษัทมีค่าใช้จ่ายในการขายได้แก่ ค่าใช้จ่ายด้านการตลาด การส่งเสริมการขาย และการโฆษณาประชาสัมพันธ์ จำนวน 75.22 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 3.40 ล้านบาท หรือ 4%

บริษัทมีค่าใช้จ่ายในการบริหารจำนวน 127.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 4.73 ล้านบาท คิดป็น 4% ส่วนใหญ่เกิดจาก ค่าเช่าที่ดินและอาคาร และค่าเครื่องหมายการค้าของกิจการร่วมค้าซึ่งคำนวณจากรายได้ อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมีนโยบายบริหารค่าใช้จ่ายอย่างระมัดระวังต่อเนื่องจากปีก่อน

บริษัทมีค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการขายและการบริหารจำนวน 13.71 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 0.55 ล้านบาท เนื่องจากทรัพย์สินบางรายการได้ตัดค่าเสื่อมราคาจนหมดอายุการใช้งานแล้ว

บริษัทมีค่าใช้จ่ายทางการเงิน คือ ดอกเบี้ยจ่ายจำนวน 10.14 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 5.27 ล้านบาท คิดเป็น 34% ดอกเบี้ยดังกล่าวจ่ายให้สถาบันการเงินสำหรับเงินกู้ยืมที่บริษัทและบริษัทย่อยกู้ยืมมาเพื่อปรับปรุงตกแต่งโรงแรม ทั้งนี้บริษัทและบริษัทย่อยมีการจ่ายคืนเงินกู้บางส่วน จึงทำให้ดอกเบี้ยจ่ายลดลง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ