นายประสาน กุมาร สิปานิ ประธานร่วม ฝ่ายการเงินและพาณิชย์ บมจ.ไทยเรยอน (TR) ชี้แจงผลการดำเนินงานไตรมาส 1/53 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 983 ล้านบาท เมื่อเทียบกับขาดทุนสุทธิจำนวน 119 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปีก่อน หรือเพิ่มขึ้น 928% หรือคิดเป็นจำนวน 1,101 ล้านบาท
ทั้งนี้ รายได้จากการขายเพิ่มขึ้นจำนวน 1,598 ล้านบาท หรือคิดเป็น 139% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยเพิ่มขึ้นจาก ปริมาณขาย 62% และราคาขายที่เพิ่มขึ้น 49% เนื่องมาจากความต้องการเส้นใยเรยอนที่ปรับตัวดีขึ้น และ ดอกเบี้ยรับเพิ่มขึ้นจำนวน 2 ล้านบาท หรือคิดเป็น 32% สาเหตุหลักมาจากจำนวนเงินฝากที่เพิ่มขึ้น เงินชดเชยการส่งออกเพิ่มขึ้น 18 ล้านบาท หรือคิดเป็น 160% เนื่องมาจากปริมาณขายส่งออกที่เพิ่มขึ้น 69% และราคาขายส่งออกที่ปรับสูงขึ้น 54%
ขณะที่กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้นจำนวน 13 ล้านบาท หรือคิดเป็น 101% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากการทำสัญญาอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้า เพื่อครอบคลุมรายรับ และเป็นผลมาจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ
ด้านส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสียในไตรมาสนี้ บริษัทฯ บันทึกผลกำไรจำนวน 285 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่บริษัทฯ บันทึกผลกำไรจำนวน 109 ล้านบาท ซึ่งสูงขึ้นกว่า 160% เนื่องมาจากผลประกอบการที่ปรับตัวดีขึ้นของบริษัทร่วม
ส่วนต้นทุนขายเพิ่มขึ้นจำนวน 615 ล้านบาท หรือคิดเป็น 48% เมื่อเทียบกับปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของ ปริมาณขาย 62% อย่างไรก็ตาม ต้นทุนในการผลิตรวมต่อหน่วยปรับลดลง 14% มาจากการลดลงของต้นทุน วัตถุดิบ 16% การลดลงของต้นทุนอื่นๆ 11%
และ ค่าใช้จ่ายในการขายเพิ่มขึ้นจำนวน 51 ล้านบาท หรือคิดเป็น 168% สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณขาย 62% และต้นทุนค่าขนส่งที่ปรับเพิ่มขึ้น สืบเนื่องมาจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นและ ค่าระวางสินค้าที่เพิ่มขึ้น
ภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มขึ้น 66% หรือ 33 ล้านบาทเนื่องมาจากบริษัทฯ มีผลกำไรในไตรมาสนี้ เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุน
จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ทำให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิต่อหุ้นสำหรับไตรมาสนี้เป็น 4.87 บาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่บริษัทฯ มีผลขาดทุนต่อหุ้นเท่ากับ 0.59 บาท