ม.ล.อยุทธ์ ไชยันต์ เลขานุการ ธนาคารทหารไทย (TMB) แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการธนาคาร นัดพิเศษครั้งที่ 2/53 เมื่อวันที่ 24 พ.ค.53 ได้มีมติอนุมัติการโอนเงินทุนสำรองดังต่อไปนี้เพื่อชดเชยผลขาดทุนสะสมของธนาคาร ณ วันที่ 31 ธ.ค.52 เป็นเงินสำรองอื่น จำนวน 8,717,165,400 บาท และทุนสำรองตามกฎหมาย 2,100,000,000 บาท รวมเป็นเงิน 10,817,165,400 บาท
นอกจากนี้ได้ อนุมัติลดทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้วของธนาคาร โดยการลดมูลค่าหุ้น (ราคาพาร์) จาก 10 บาท/หุ้น เป็น 0.95 บาท/หุ้น ทำให้ทุนจดทะเบียนลดลงจาก 437,087,384,790 บาท เป็น 41,523,301,555.05 บาท และทุนชำระแล้วลดลงจาก435,287,384,790 บาท เป็น 41,352,301,555.05 บาท
ทั้งนี้ ทุนชำระแล้วที่ลดลงอันเป็นผลจากการลดมูลค่าหุ้น (ราคาพาร์) ดังกล่าวให้นำไปล้างส่วนต่ำกว่ามูลค่าหุ้น และลดผลขาดทุนสะสมของธนาคาร ตามที่ปรากฏในงบการเงินของบริษัทสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.52 ซึ่งผ่านการตรวจสอบและรับรองโดยผู้สอบบัญชีของธนาคาร
พร้อมทั้ง อนุมัติให้เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของธนาคารจำนวน 400 ล้านหุ้นให้แก่พนักงานของธนาคารตามโครงการ TMB Performance Share Bonus 2010 ราคาเสนอขายจะเท่ากับราคาเฉลี่ยของราคาปิดในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในแต่ละวันทำการซื้อขายหุ้นสามัญของธนาคารย้อนหลัง 90 วันปฏิทินก่อนวันที่มีการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในแต่ละครั้ง ซึ่งอาจเป็นราคาที่ต่ำกว่า 90% ของราคาตลาดตามที่กำหนดไว้ในประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เกี่ยวกับการคำนวณราคาเสนอขายหลักทรัพย์และการกำหนด ราคาตลาดเพื่อการพิจารณาเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่
และ อนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนรองรับจากจำนวน 41,523,301,555.05 บาท เป็น 41,903,301,555.05 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 400 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ หุ้นละ 0.95 บาท
ทั้งนี้ การกำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1 /2553 ในวันที่ 24 มิ.ย.53 กำหนดให้วันที่ 7 มิ.ย.53 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น และให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 แห่ง พ.ร.บ. หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 8 มิ.ย.53
นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TMB กล่าวว่า การลดราคาพาร์จะดำเนินการด้วยวิธีทางบัญชี และจะส่งผลให้งบดุลของธนาคารไม่มียอดขาดทุนสะสม โดยไม่มีผลกระทบต่อเงินกองทุนของธนาคาร ซึ่งปัจจุบันมีความแข็งแกร่งด้วยระดับความเพียงพอของเงินกองทุน (CAR) ที่ 18.6% (เมื่อรวมหุ้นกู้ที่ออกในเดือนเม.ย.53) เปิดโอกาสให้ธนาคารสามารถพิจารณาจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นได้ในเวลาที่เหมาะสม
และ จะไม่ส่งผลกระทบต่อจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมด และมูลค่าตามบัญชีต่อหุ้น หรือ พื้นฐานการดำเนินงานของธนาคารแต่อย่างใด โดยส่วนต่ำมูลค่าหุ้น 303,088 ล้านบาท และ ยอดขาดทุนสะสม 101,048 ล้านบาทในบัญชีส่วนของผู้ถือหุ้นจะถูกหักล้างในการดำเนินการทางบัญชี
"เรายินดีที่จะได้ดำเนินการทางบัญชีตามแผนการลดราคาพาร์หุ้นสามัญของธนาคาร ซึ่งนับว่าเป็นข่าวดีสำหรับผู้ถือหุ้น เพราะเมื่อการดำเนินการเสร็จสิ้น งบดุลของ TMB จะไม่มียอดขาดทุนสะสม เปิดโอกาสให้ธนาคารสามารถพิจารณาจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นได้เมื่อมีกำไรและยังสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของระบบธนาคารพาณิชย์ไทยโดยรวม และช่วยเสริมสร้างให้นักลงทุนในไทยและต่างประเทศมีความเชื่อมั่นมากขึ้น" นายบุญทักษ์ กล่าว
ทั้งนี้ ธนาคารตั้งเป้าหมายว่าจะดำเนินการลดราคาพาร์หุ้นสามัญเสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือน มิ.ย. และการดำเนินการดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบต่อเงินกองทุนของธนาคาร ซึ่งปัจจุบันมีจำนวน 67,912 ล้านบาท ระดับความเพียงพอของเงินกองทุนที่สูง 18.6% และมีส่วนของผู้ถือหุ้น 47,927 ล้านบาท
สำหรับโครงการจ่ายโบนัสให้พนักงานในรูปแบบของหุ้น (TMB Performance Share Bonus Program หรือ TMB PSBP) ซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติที่ดีในระดับสากล(International Best Practice) โดยขึ้นอยู่กับผลการปฏิบัติงานของพนักงาน ที่จะทำให้โครงสร้างผลตอบแทนรวมของพนักงานสามารถแข่งขันได้กับตลาดและเป็นเครื่องมือในการรักษาพนักงานที่มีความรู้ความสามารถให้ทำงานกับธนาคารต่อไป
พนักงานมีสิทธิ์ที่จะเลือกแบ่งรับโบนัสตามผลงาน (Performance Bonus) เป็นเงิน 50% และส่วนที่เหลืออีก 50% เป็นหุ้นของธนาคาร ซึ่งธนาคารจะนำเงินส่วนนี้มาทยอยจัดสรรหุ้นให้พนักงานใน 3 ปีข้างหน้า โดยการเข้าร่วมโครงการจะเป็นไปตามความสมัครใจของพนักงานแต่ละคน ส่วนผู้บริหารระดับสูงนั้นธนาคารกำหนดให้เข้าร่วมโครงการทุกคน เนื่องจากเป็นผู้ที่มีบทบาทโดยตรงในการนำกลยุทธ์มาปฏิบัติและบริหารเพื่อสร้างความเติบโตและรายได้ให้แก่ธนาคาร