TMB เตรียมออกหุ้นใหม่ 400 ล้านหุ้นในโครงการจ่ายโบนัสพนักงาน

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday June 25, 2010 09:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย (TMB) เปิดเผยว่า ธนาคารได้เริ่มโครงการจ่ายโบนัสตามผลงานในรูปแบบของหุ้นสามัญ (TMB Performance Share Bonus Program) หรือ TMB PSBP แก่พนักงานทุกคน หลังได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.53 ซึ่งพนักงานสามารถเลือกที่จะเข้าร่วมด้วยความสมัครใจ แต่กำหนดให้ผู้บริหารระดับสูงต้องเข้าร่วมโครงการ

โครงการจ่ายโบนัสตามผลงานในรูปแบบหุ้นสามัญของ TMB นี้ นับเป็นวิธีการบริหารผลตอบแทนพนักงานในรูปแบบใหม่ ที่มีการจัดทำขึ้นเป็นครั้งแรกโดยธุรกิจที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยธนาคารจะจ่ายโบนัสตามผลการปฏิบัติงานเป็นเงินส่วนหนึ่งและส่วนที่เหลือธนาคารเก็บไว้เพื่อออกหุ้นสามัญให้พนักงาน

ทั้งนี้ ธนาคารจะออกหุ้นสามัญ จำนวน 400 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 0.9% ของจำนวนหุ้นสามัญจดทะเบียนทั้งสิ้น เพื่อใช้ในการขายให้พนักงาน สำหรับปีผลการปฏิบัติงาน 3 ปี ตั้งแต่ปี 53-55 ตามที่โครงการกำหนด โดยราคาหุ้นจะคำนวณจากราคาเฉลี่ยของราคาตลาด 90 วัน ก่อนวันเสนอขาย ทั้งนี้ หุ้นที่จะเสนอขายให้พนักงานสำหรับแต่ละปีผลการปฏิบัติงาน จะถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วนเท่าๆกัน เพื่อมอบให้พนักงานปีละ 1 ส่วน เป็นเวลา 3 ปี

"โครงการจ่ายโบนัสตามผลงานในรูปแบบของหุ้นสามัญนี้ เป็นอีกก้าวหนึ่งที่สำคัญของ TMB ในการเป็นองค์กรที่มีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง มุ่งเน้นที่ผลงาน และจะเป็นสิ่งที่หนุนนำให้พนักงานและผู้บริหารระดับสูงดำเนินการเพื่อให้มั่นใจว่า ธนาคารจะบรรลุเป้าหมายในการสร้างคุณค่าให้แก่ผู้ถือหุ้น" นายบุญทักษ์ กล่าว

นอกจากนี้ ที่ประชุมใหญ่วิสามัญผู้ถือหุ้นยังได้อนุมัติแผนการลดราคาพาร์หุ้นสามัญของธนาคาร จำนวน 43,528,738 หุ้น จากราคาหุ้นละ 10 บาท เป็นหุ้นละ 0.95 บาท ซึ่งเป็นการลงบัญชีที่สะท้อนมูลค่าหุ้นที่ถูกต้อง ส่วนต่ำกว่ามูลค่าหุ้น 303,088 ล้านบาท และยอดขาดทุนสะสม 101,800 ล้านบาทจะหมดไปจากงบดุลของธนาคาร เพื่อเปิดโอกาสให้ธนาคารจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นได้หากธนาคารมีผลกำไรและมีความเหมาะสม และจะไม่มีผลกระทบต่อเงินกองทุนของธนาคาร

ทั้งนี้ การลดราคาพาร์หุ้นสามัญและล้างขาดทุนสะสมจะดำเนินการได้เสร็จสิ้นภายในเดือน มิ.ย.53

โดยที่ในปัจจุบันธนาคารมีระดับความเพียงพอของเงินกองทุนที่สูงถึง 18.6% เมื่อเทียบกับเกณฑ์ขั้นต่ำ 8.5% ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด สะท้อนถึงความมั่นคงของธนาคาร สามารถรองรับการขยายสินเชื่อให้เติบโตต่อไปตามแผนงานที่กำหนดไว้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ