บมจ. เอส.พี.ซูซูกิ (SPSU)เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัท ครั้งที่ 6/2553 เมื่อวันที่ 16 ก.ค.53 มีมติอนุมัติให้บริษัทดำเนินการขอเพิกถอนหุ้นของบริษัทจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยโดยสมัครใจ โดยบริษัทได้รับแจ้งจากบริษัท เอส.พี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ว่ามีความประสงค์จะทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัทเป็นการทั่วไป ในราคาเสนอซื้อหุ้นละ 16.20 บาท
พร้อมทั้ง มีมติอนุมัติให้แต่งตั้งบริษัท แอดไวเซอรี่ พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระของบริษัทเพื่อทำหน้าที่ให้ความเห็นเกี่ยวกับการเข้าทำรายการจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ และเป็นที่ปรึกษาและเสนอแนะความเห็นต่อผู้ถือหุ้นเพื่อประกอบการพิจารณาการขอเพิกถอนหุ้นของบริษัทจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวมทั้งให้ความเห็นและพิจารณาความเหมาะสมของรายการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย
กำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2553 ในวันที่ 23 ก.ย.53 กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2553 (Record Date)ในวันที่ 2 ก.ย.53 และให้รวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นโดยวิธีปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น ในวันที่ 3 ก.ย.53
อย่างไรก็ตาม ก่อนเพิกถอนหุ้นออกจากตลาดหลักทรัพย์ บริษัทจะต้องขายหุ้นสามัญของบริษัท ไทยซูซูกิมอเตอร์ จำกัด ให้แก่บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น (Suzuki Motor Corporation) จำนวนทั้งสิ้น 5,088 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 18.78 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมด ราคาซื้อหุ้นละ 131,666.61 บาท รวมเป็นมูลค่า 669,919,712.66 บาท
ภายหลังจากที่บริษัทจะได้รับเงินปันผลจากบริษัท ไทยซูซูกิมอเตอร์ จำกัด จำนวนหุ้นละ 26,504.00 บาท รวมเป็นมูลค่า 134,852,352.00 บาท โดยมูลค่ารวมที่บริษัทจะได้รับจากบริษัท ไทยซูซูกิมอเตอร์ จำกัด ทั้งในการขายหุ้นสามัญของ บริษัท ไทยซูซูกิมอเตอร์ จำกัด และจากเงินปันผล เป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 804,772,064.66 บาท
และ ให้บริษัทการยกเลิกสัญญา Distributorship Agreement และสัญญา Dealership Agreements ที่ทำกับบริษัท ไทยซูซูกิมอเตอร์จำกัด เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.48 และยกเลิกสัญญา Dealership Agreements ที่บริษัทได้ทำกับตัวแทนจำหน่ายรายต่างๆ ภายใน 31 ธ.ค.53
รวมทั้ง จำหน่ายสินค้าคงเหลือคืนให้แก่บริษัท ไทยซูซูกิมอเตอร์ จำกัด ในราคาเดียวกันกับราคาที่ได้จำหน่ายให้แก่บริษัท ในกรณีที่สินค้าคงเหลือมีอายุเกินกว่า 1 ปีขึ้นไป อาจจะถูกปรับลดราคาตามสภาพ โดย ณ 31 มี.ค.53 รถจักรยานยนต์ในสินค้าคงเหลือของบริษัทมีมูลค่าทั้งสิ้น 101,650,534 บาท เป็นสินค้ามีอายุเกิน 1 ปีขึ้นไป มีมูลค่า 13,847,834 บาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 13.62 ของ สินค้าคงเหลือที่เป็นรถจักรยานยนต์ทั้งหมด โดยกำหนดวงเงินในการรับซื้อสินค้าคงเหลือคืนดังกล่าวรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 82,000,000 บาท
ส่วนการขายหุ้นสามัญของบริษัท สินพล จำกัด ที่บริษัทถืออยู่ทั้งหมดจำนวนทั้งสิ้น 1,299,965 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท คิดเป็นร้อยละ 99.99 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัท สินพล จำกัด ในราคาขายรวมไม่ต่ำกว่า 24,000,000 บาท บริษัท สินพล จำกัด อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างทุนของบริษัทโดยจะมีการเพิ่มทุนเป็นจำนวน 80,000,000 บาทโดยจะนำเงินเพิ่มทุนที่ได้รับรวมทั้งการขายทรัพย์สินของ บริษัท สินพล จำกัด เพื่อไปชำระหนี้