บริษัท เวลท์ พลัส แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ ซึ่ง บมจ.ซันไชน์ คอร์เปอเรชั่น(SSE)แต่งตั้งเพื่อให้คำปรึกษากรณีที่บริษัทจะเข้าซื้อหุ้น บมจ.โรงพิมพ์ตะวันออก(EPCO) โดยมีความเห็นว่าผู้ถือหุ้นของบริษัทควรลงมติไม่อนุมัติการเข้าทำรายการซื้อหุ้น EPCO ในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 9 ส.ค.53
ที่ปรึกษาฯ เห็นว่าแม้ว่าหุ้น EPCO เป็นหุ้นที่มีศักยภาพในการลงทุนอีกทั้งราคาและเงื่อนไขของรายการยังมีความเหมาะสมและเป็นธรรมตามสมควร อย่างไรก็ดี เนื่องจากโครงการลงทุนซื้อหุ้นสามัญของ EPCO ครั้งนี้ บริษัทฯ ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก ในขณะที่สินทรัพย์สภาพคล่องของบริษัทฯ มีไม่เพียงพอ ทำให้ต้องขอกู้เงินจากกรรมการของบริษัทฯ จำนวน 150 ล้านบาท โดยมีเงื่อนไขในการชำระคืนภายในระยะเวลาเพียง 1 ปี ดังนั้น บริษัทฯ จึงมีความเสี่ยงที่จะไม่สามารถชำระคืนเงินกู้ดังกล่าวได้ตามกำหนด
ประกอบกับผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปัจจุบันยังไม่สามารถแสดงได้อย่างชัดเจนว่าจะชำระคืนเงินกู้จำนวนดังกล่าวได้ นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีความเสี่ยงจากการขาดทุนอันเนื่องมาจากการขายเงินลงทุนเพื่อนำเงินที่ได้มาสมทบอีกด้วย ดังนั้นที่ปรึกษาฯ จึงมีความเห็นว่าบริษัทฯ ยังมีความเสี่ยงในการเตรียมเงินให้ได้เพียงพอต่อการซื้อหุ้น EPCO ครั้งนี้
ทั้งนี้ การเข้าซื้อหุ้น EPCO ในครั้งนี้ก็มีข้อด้อยที่สำคัญ ได้แก่ ความไม่เพียงพอของเงินทุนของบริษัทฯ กล่าวคือ บริษัทฯ ต้องใช้เงินลงทุนซื้อหุ้น EPCO จาก บมจ. เอส แพ็ค แอนด์ พริ้นท์ (SPACK) และ Asia Special Situations MT1 Limited โดย Somers (U.K.) Limited (SOMER)จำนวน ประมาณ 400 ล้านบาท และอาจจะต้องใช้เงินลงทุนอีกจำนวนประมาณ 400-500 ล้านบาทเพื่อการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (Tender Offer) ในกรณีมีผู้ตอบรับคำเสนอซื้อทั้งหมด รวมเป็นจำนวนเงินลงทุนทั้งสิ้น 800-900 ล้านบาท
ในขณะที่บริษัทฯ ได้เตรียมจัดหาเงินไว้จำนวน 560 ล้านบาทโดยเงินทุนส่วนใหญ่มาจาก แหล่งเงินทุนภายในบริษัทฯและบริษัทย่อย ประมาณ 260 ล้านบาทส่วนที่เหลือได้จากการกู้ยืมจากกรรมการ และตัวแทนผู้ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ รวม 300 ล้านบาท
จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้น หากบริษัทฯ จะดำเนินการซื้อหุ้นสามัญ EPCO และทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมด บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องกู้เงินจำนวนมาก ทำให้บริษัทฯ ต้องมีภาระดอกเบี้ยจ่ายจำนวนมากด้วย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อฐานะทางการเงินและสภาพคล่องของบริษัทฯ อย่างมีนัยสำคัญ
อนึ่ง คณะกรรมการ SSE มีมติอนุมัติเข้าซื้อหุ้น EPCO จาก SPACK และ SOMER จำนวนหุ้นไม่เกิน 204,851,734 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 39.75 ของทุนจดทะเบียน ที่ชำระแล้วของ EPCO ในราคาหุ้นละไม่เกิน 2.00 บาท