นางวารุณี ลภิธนานุวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานการเงินและบัญชี บมจ.ศุภาลัย (SPALI) เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้ลงในหุ้นเพิ่มทุนของบริษัท ภูเก็ตเอสเตท จำกัด ซึ่งได้จดทะเบียนเพิ่มทุนเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 20 ก.ค.53 โดยบริษัทได้เข้าลงทุนในหุ้นเพิ่มทุนของบริษัท ภูเก็ตเอสเตท จำกัดตามสัดส่วนผู้ถือหุ้น และในส่วนที่ผู้ถือหุ้นเดิมสละสิทธิในราคาพาร์ ทำให้ภายหลังการเพิ่มทุนครั้งนี้สัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทฯ เปลี่ยนจากเดิมคือ 69.45 % เป็น 81.51 % ของทุนชำระแล้ว 307,260,800 บาท
ทั้งนี้ บริษัท ภูเก็ตเอสเตท จำกัด ได้ประกาศเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 153,630,400 บาท เป็น 307,260,800 บาท โดยจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม ในสัดส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ที่ราคาพาร์
SPALI ลงทุนตามสัดส่วนจำนวน 106,698,500 บาท และในส่วนของผู้ถือหุ้นเดิมบางรายที่สละสิทธิ จำนวน 26,293,470 บาทและส่วนของนายประทีป ตั้งมติธรรม และนายชวน ตั้งมติธรรม ที่สละสิทธิ จำนวน 10,757,110บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 143,749,080 บาท ชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนโดยการแปลงหนี้เป็นทุน จำนวน 91,961,357.89 บาท และ เงินสดจำนวน 51,787,722.11 บาท ซึ่งนำมาจากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท ฯ
เมื่อ 26 ส.ค.51 และ 13 ม.ค.52 คณะกรรมการ SPALI มีมติเงินให้กู้ยืมแก่ บริษัท ภูเก็ตเอสเตท จำกัด ในรูปตั๋วสัญญาใช้เงิน อัตราดอกเบี้ย MLR เฉลี่ยของ 4 ธนาคารใหญ่และเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ไม่ต่ำกว่าต้นทุนเงินกู้ยืมของ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) โดยภาระหนี้เงินกู้รวมสูงสุดไม่เกิน 100 ล้านบาท โดยไม่มีหลักประกัน ชำระคืนภายในระยะเวลา 1.5 ปี และภายหลังบริษัท ภูเก็ตเอสเตท ไม่สามารชำระคืนได้ภายในกำหนดเวลา จึงได้มีมติอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 153.63 ล้านบาท เป็น 307.26 ล้านบาท เพื่อชำระคืนเงินกู้บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน
บริษัท ภูเก็ตเอสเตท จำกัด เป็นบริษัทย่อยของบริษัท ฯ ประกอบธุรกิจพัฒนา บ้านพักตากอากาศเพื่อเช่าระยะยาวและบริหารโรงแรมในจังหวัดภูเก็ต ในปี 52 มีรายได้ 19.31 ล้านบาท และขาดทุน 46.59 ล้านบาท และในงวด 3 เดือนแรกสิ้นสุด 31 มี.ค. 53 มีรายได้ 14.64 ล้านบาท และขาดทุน 5.33 ล้านบาท