บมจ. การบินไทย (THAI)เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯครั้งที่ 10/2553 เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2553 มีมติอนุมัติใน หลักการเพื่อลงทุนในบริษัทร่วมทุนกับ Tiger Airways Holdings Limited เพื่อจัดตั้งสายการบินต้นทุนต่ำ (Ultra-Low-Cost, Low-fare Airline) ทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท โดย THAI ถือหุ้นร้อยละ 49.8 และ Tiger Airways Holdings Limited ร้อยละ 49.0
วัตถุประสงค์การเข้าร่วมทุน เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจและรองรับการเปิดเสรีทางการบิน สร้าง Brand เพิ่ม เพื่อปกป้องและขยายส่วนแบ่งการตลาดในแต่ละกลุ่มลูกค้า และ แสวงหาโอกาสในการเพิ่มรายได้ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน การบินไทยลงนาม MOU ความร่วมมือการร่วมทุนกับสายการบินไทเกอร์ แอร์เวย์ส
นยปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ THAI และนายโทนี เดวิส ประธานกรรมการบริหาร สายการบินไทเกอร์ แอร์เวย์ส ร่วมลงนามใน MOU ตั้งสายการบิน Thai Tiger Airways ในวันนี้ โดยจะดำเนินธุรกิจในรูปแบบสายการบินต้นทุนต่ำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จะทำการบินในเส้นทางภายในประเทศและต่างประเทศ ทำการบินเชื่อมโยงแบบจุดต่อจุดที่มีระยะทางทำการบิน 5 ชั่วโมง
ทั้งนี้ จะใช้กรุงเทพฯ เป็น Gateway ในการเดินทางของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และใช้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นฐานปฏิบัติการ นอกจากนี้ Thai Tiger Airways ยังมีแผนจัดหาเครื่องบินใหม่ คือ เครื่องบินแอร์บัส เอ 320 จำนวน 5 ลำ ในปี 54 และอีก 10 ลำในปี 55 ซึ่งคาดว่าสายการบินต้นทุนต่ำ Thai Tiger Airways จะสามารถเริ่มให้บริการได้ในช่วงไตรมาส 1/54
นายปิยสวัสดิ์ เปิดเผยว่า สายการบิน Thai Tiger Airways จะดำเนินการในรูปแบบสายการบินต้นทุนต่ำ และจำหน่ายบัตรโดยสารในราคาถูก ทั้งนี้ การร่วมทุนระหว่าง 2 สายการบินดังกล่าวจะใช้งบประมาณในการร่วมลงทุนจัดตั้งสายการบินต้นทุนต่ำเป็นเงิน 100 ล้านบาท โดยมีทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท สำหรับการถือหุ้นในส่วนของการบินไทยจะถือหุ้น 49.8% และกลุ่มบริษัทในเครือของการบินไทยอีก 1.2% รวมเป็น 51% และ Tiger Airways Holding Company Limited 49.0%
นอกจากนี้การบินไทยยังได้สิทธิมีที่นั่งในคณะกรรมการ 3 ที่ ส่วนไทเกอร์ แอร์เวย์ส มีที่นั่งในคณะกรรมการ 2 ที่ สำหรับแผนการทำการบินทั้งในเส้นทางภายในประเทศ และในภูมิภาคจะไม่มีการแย่งส่วนแบ่งการตลาดกับการบินไทย แต่สายการบินต้นทุนต่ำที่การบินไทยและไทเกอร์ แอร์เวย์ส จะร่วมลงทุนจัดตั้งขึ้นจะไปแข่งขันและดึงส่วนแบ่งทางการตลาดกับสายการบินต้นทุนต่ำอื่นๆ หรือสร้างโอกาสเพิ่มรายได้ในตลาดใหม่ และที่สำคัญยังเป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยวไทยด้วยการนำนักเดินทางท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้มีการสร้างรายได้ให้กับธุรกิจและเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวทั้งในส่วนของภาครัฐและภาคเอกชน นอกจากนี้ ยังเป็นการเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้ใช้บริการมากขึ้นอีกด้วย
นายโทนี เดวิส ประธานกรรมการบริหาร (CEO) สายการบินไทเกอร์ แอร์เวย์ส เปิดเผยว่า สายการบินต้นทุนต่ำ “ Thai Tiger Airways " จะเน้นตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยจะทำให้ภูมิภาคเอเชียเป็นศูนย์กลางการเดินทาง นอกจากนี้ ยังจะทำการบินครอบคลุมไปยังเอเชียตอนเหนือ และประเทศอินเดีย โดยจะเน้นการแข่งขันและแบ่งสัดส่วนการตลาดกับสายการบินต้นทุนต่ำอื่นๆ
อนึ่ง สายการบินไทเกอร์ แอร์เวย์ส ก่อตั้งขึ้นในเดือนกันยายน 2547 บริหารกิจการในรูปแบบสายการบินต้นทุนต่ำอย่างอิสระ ไม่ได้เป็นบริษัทในเครือของสายการบินใด ปัจจุบันมีฝูงบินแอร์บัส เอ320 จำนวน 19 ลำ และจะเพิ่มฝูงบินเป็นจำนวน 68 ลำ ในเดือนธันวาคม 2558 ทำการบิน 37 เส้นทาง ใน 11 ประเทศ ในภูมิภาคเอเชีย และออสเตรเลีย มีสัดส่วนผู้ถือหุ้น ดังนี้ Singapore Airlines 33.7%, Dahlia Investment 7.7%, Founder of Ryan Air and American West 26.2% และ Public 32.4%
THAI ก่อตั้งขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2503 มีกระทรวงการคลังถือหุ้น 51.03% ปัจจุบันมีเครื่องบินประจำการในฝูงบิน จำนวน 91 ลำ ทำการบินทั้งในเส้นทางภายในประเทศ และต่างประเทศ 69 เส้นทาง ใน 34 ประเทศทั่วโลก