สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 1 ต.ค.พุ่งขึ้น 3.09 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 360.95 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 300,000 บาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 1.12 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 172.47 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับลงเพียง 900,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 2.65 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 219.94 ล้านบาร์เรล มากว่าที่คาดว่าจะลดลงเพียง 200,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 2.7% มาอยู่ที่ระดับ 83.1%
สต็อกน้ำมันข้างต้นไม่นับรวมกับคลังน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ (Strategic Petroleum Reserve) ของสหรัฐซึ่งปัจจุบันมีน้ำมันดิบสำรองอยู่ประมาณ 689 ล้านบาร์เรล แต่รัฐบาลสหรัฐประกาศให้ปรับเพิ่มคลังน้ำมันสำรองประเภทดังกล่าวขึ้นสู่ระดับ 1.5 ล้านบาร์เรลภายในปีพ.ศ. 2570 เพื่อรับมือกับภาวะติดขัดที่อาจเกิดจากภัยพิบัติทางธรรมชาติและการโจมตีของผู้ก่อการร้าย สำนักข่าวซินหัวรายงาน