สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (7 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทะยานขึ้นไปยืนเหนือระดับ 83 ดอลลาร์เมื่อวันพุธ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐระบุว่าสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้วพุ่งขึ้นเกินคาด
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ย.ร่วงลง 1.56 ดอลลาร์ ปิดที่ 81.67 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนพ.ย.ลดลง 5.60 เซนต์ ปิดที่ 2.2518 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 3.79 เซนต์ ปิดที่ 2.1180 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนพ.ย.ร่วงลง 1.63 ดอลลาร์ ปิดที่ 83.43 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบทะยานขึ้นเหนือระดับ 83 ดอลลาร์เมื่อวันพุธ เพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่ยังคงอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 1 ต.ค.พุ่งขึ้น 3.09 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 360.95 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 300,000 บาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 1.12 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 172.47 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับลงเพียง 900,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 2.65 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 219.94 ล้านบาร์เรล มากว่าที่คาดว่าจะลดลงเพียง 200,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 2.7% มาอยู่ที่ระดับ 83.1%
นอกเหนือจากสต็อกน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นเกินคาดแล้ว นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของตลาดแรงงาน หลังจาก ADP Employer Services รายงานว่า ภาคเอกชนทั่วประเทศสหรัฐลดการจ้างงานลง 39,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. เมื่อเทียบกับเดือนส.ค.ที่เพิ่มการจ้างงาน 10,000 ตำแหน่ง และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าภาคเอกชนจะเพิ่มการจ้างงาน 24,000 ตำแหน่ง
กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนก.ย.ในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดตัวเลขจ้างงานจะทรงตัวในเดือนก.ย. หลังจากลดลง 54,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนก.ย.จะอยู่ที่ 9.7% เพิ่มขึ้นจากเดือนส.ค.ที่ระดับ 9.6%