สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเชื่อว่าการที่ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรสหรัฐลดลงเกิดคาดในเดือนกันยายน จะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใช้มาตรการผ่อนปรนทางการเงินเพิ่มเติม ซึ่งเป็นการสร้างแรงกดดันให้กับเงินดอลลาร์สหรัฐ
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ย.บวก 99 เซนต์ ปิดที่ 82.66 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนพ.ย.บวก 3.01 เซนต์ ปิดที่ 2.2819 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 3.32 เซนต์ ปิดที่ 2.1512 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 60 เซนต์ ปิดที่ 84.03 ดอลลาร์/บาร์เรล
เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 15 ปีเมื่อเทียบเงินเยน ขณะเดียวกันก็ร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบเงินยูโร หลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนกันยายนร่วงลง 95,000 ตำแหน่ง ซึ่งลดลงเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน โดยภาคเอกชนจ้างงานเพิ่มขึ้นน้อยเกินคาดเพียง 64,000 ตำแหน่ง ขณะที่ภาครัฐลดพนักงานลงถึง 159,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราว่างงานยังทรงตัวที่ระดับ 9.6%
เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่องในช่วงเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าเฟดจะเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริงเงินดอลลาร์ก็จะยิ่งอ่อนค่าลงอีก