อุตสาหกรรมการผลิตยางธรรมชาติของกัมพูชาซึ่งค่อนข้างซบเซาในช่วงประมาณ 5 ปีที่ผ่านมา มีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปีนี้เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
หนังสือพิมพ์ Cambodia Daily รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากสมาคมประเทศผู้ผลิตยางธรรมชาติ (ANRPC) ซึ่งระบุในเอกสารประจำเดือนกันยายนว่า ผลผลิตยางธรรมชาติของกัมพูชาน่าจะขยายตัวราว 43.5% จากปีที่แล้ว แตะที่ 49,500 ตันในปีนี้ เทียบกับในช่วงปี 2548-2551 ซึ่งมีผลผลิตราว 20,000 ตันต่อปี
หากเป็นไปตามที่คาดการณ์ อัตราการเติบโต 43.5% ถือว่าขยายตัวมากที่สุดในบรรดา 11 ประเทศสมาชิก ANRPC ซึ่งประกอบด้วยประเทศไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย อินเดีย เวียดนาม จีน ศรีลังกา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ปาปัวนิวกินี และกัมพูชาที่เพิ่งเข้าเป็นสมาชิกเมื่อปีที่แล้ว
ANRPC ระบุว่า ผลผลิตยางธรรมชาติในกัมพูชาเพิ่มขึ้นเพราะมีการเพิ่มกำลังการผลิต ขณะเดียวกันก็มีการเพิ่มพื้นที่ปลูกยางราว 10,000 เฮคตาร์ในปีนี้
ด้านนาย Mak Kimhong ผู้อำนวยการสมาคมยางแห่งกัมพูชา กล่าวว่า มูลค่ายางที่สูงขึ้นเนื่องจากประเทศกำลังพัฒนาต้องการยางรถยนต์มากขึ้น เป็นปัจจัยหลักที่หนุนให้อุตสาหกรรมยางในประเทศเติบโต
"ผลผลิตยางในประเทศเพิ่มสูงขึ้นเพราะเราปลูกยางมากขึ้น เนื่องจากตอนนี้ราคายางสูงขึ้น" เขากล่าว "ราคายางตอนนี้อยู่ที่ 3,600 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ขณะที่ปีที่แล้วราคายางอยู่ที่เพียงเกือบ 1,000 ดอลลาร์ต่อตัน"
นาย Chan Sarun รัฐมนตรีกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมง กล่าวว่าอุตสาหกรรมยางธรรมชาติของกัมพูชาเป็น "ตลาดที่กำลังเติบโต" โดยปัจจุบันมีการปลูกยางบนพื้นที่ราว 150,000 เฮคตาร์ในประเทศ
"ในอนาคต อาจจะในปี 2558 เราอาจมีพื้นที่ปลูกยางมากถึง 250,000 เฮคตาร์" เขากล่าว สำนักข่าวซินหัวรายงาน