สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (11 ต.ค.) หลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้ามาเทขายทำกำไรก่อนที่ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ ในขณะที่ภาวะการซื้อขายในตลาดเป็นไปอย่างซบเซาเนื่องจากตลาดพันธบัตรและหน่วยงานราชการของสหรัฐปิดทำการในวันจันทร์ที่ 11 ต.ค.เนื่องในวันโคลัมบัส
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX เดือนพ.ย.ปรับตัวลง 45 เซนต์ หรือ 0.54% ปิดที่ 82.21 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนพ.ย.ร่วงลง 32 เซนต์ ปิดที่ 83.71 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบหลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ และก่อนที่ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ รวมถึงดัชนีการจ้างงานเดือนก.ย. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานรายสัปดาห์ รวมทั้งดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) และยอดค้าปลีกประจำเดือนก.ย. นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูรายงานผลประกอบการของบริษัทเอกชนในสัปดาห์นี้ รวมถึงผลประกอบการของเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค และเจนเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี)
ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาดูการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ซึ่งจะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีนี้ หลังจากนายอาลี อัล-ไนมี รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของซาอุดิอาระเบียกล่าวแสดงความเห็นว่า ราคาน้ำมันที่ระดับ 70-80 ดอลลาร์/บาร์เรลถือเป็นราคาในอุดมคติ ซึ่งการแสดงความเห็นดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า ซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นสมาชิกที่ทรงอิทธิพลที่สุดในกลุ่มโอเปคยังไม่มีแผนที่จะใช้มาตรการใดๆที่จะหนุนราคาน้ำมันในสูงขึ้น
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 8 ต.ค. ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 8 ต.ค.ในวันพฤหัสบดีนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบจะพุ่งขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 1.4 ล้านบาร์เรล และคาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 0.3%
ทั้งนี้ สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานได้เลื่อนการเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันดิบออกไปเป็นวันพฤหัสบดี จากกำหนดการปกติที่มีการเปิดเผยในวันพุธ เนื่องจากหน่วยงานราชการของสหรัฐปิดทำการในวันจันทร์ที่ 11 ต.ค.เนื่องในวันโคลัมบัส