ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET) ระบุว่า ขณะนี้ราคาซื้อขายยางส่งมอบเดือนมิถุนายน 53 (ณ 3 พ.ย. 53) มีราคาปิดอยู่ในระดับ 125.50 บาท/กก. นับว่าราคาอยูในระดับสูงมากในช่วงนี้ ในรอบหลายปีที่ผ่านมา
โดยปกติราคาในช่วงปลายปี จะแกว่งตัวอยู่ในระดับ 70 — 100 บาท/กก. สำหรับราคาซื้อขายวันนี้ อยู่ในระดับ 121.40 -125.50 บาท/กก. ซึ่งราคายางปรับตัวเพิ่มถึง 57.35% เมื่อเปรียบเทียบกับราคาล่วงหน้าในเดือนพฤศจิกายน 52 ที่ผ่านมา ซึ่งมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 79.60 บาท/กก.
"เห็นได้ว่าราคายางมีการปรับตัวสูงขึ้นมากและเกือบใกล้เคียงกับราคาสูงสุดของสถิตินับตั้งแต่เปิดตลาด ที่ระดับ 130 บาท/กก. และในรอบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคายางได้มีการปรับตัวสูงขึ้นมาโดยตลอด แสดงให้เห็นว่าการปรับตัวของราคายางในช่วงนี้มีโอกาสทุบสถิติ และร้อนแรงกว่าในอดีตเป็นอย่างมาก" เอกสารเผยแพร่ ระบุ
ทั้งนี้ การปรับตัวสูงขึ้นของราคายางใน AFET ในช่วงนี้เป็นผลโดยตรงมาจากการสถานการณ์ฝนตกหนักติดต่อหลายวัน จากลมพายุดีเปรสชั่นที่ก่อตัวในอ่าวไทย ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ของจังหวัดทางภาคใต้ โดยเฉพาะ สงขลา สุราษฏร์ธานี พัทลุง สงขลา ปัตตานี นราธิวาสและ และ ยะลา เป็นต้น ซึ่งในจังหวัดส่วนใหญ่เป็นแหล่งเพาะปลูกยาง และที่ตั้งของโรงงานยางที่สำคัญของไทย ทำให้ผู้ประกอบการยางและนักลงทุนเริ่มกังวลเกี่ยวกับการคาดการณ์กับผลผลิตที่จะเข้าสู่ตลาดในช่วงนี้ และต่อเนื่องถึงปีหน้า ทำให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นมาโดยตลอด โดยปกติในช่วงนี้ผลผลติยางจะทะยอยเข้าสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก ประกอบกับการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ดังจะเห็นได้จากราคาน้ำมันในวันนี้ อยู่ที่บาร์เรลละ 84.50 ดอลล่าร์สหรัฐดอลลาร์/บาร์เรลซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน
นอกจากยางพาราแล้ว สินค้าข้าวยังได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน ด้วยปัจจัยด้านผลผลิตที่จะออกสู่ตลาด ทั้งภายนอกและภายในประเทศ โดยกระทรวงเกษตรสหรัฐ คาดการณ์ว่าผลผลิตข้าวของโลกจะลดลงทั้งในประเทศผู้ผลิตและผู้บริโภค ประกอบกับเหตุการณ์น้ำท่วมในพื้นที่เพาะปลูกข้าวหลายแห่งของประเทศ ส่งผลให้ราคาข้าวใน AFET มีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในช่วงนี้ราคาข้าวมีความผันผวน นักลงทุนควรติดตามราคาข้าวอย่างใกล้ชิดและมีความระมัดระวังในการลงทุน