นายวันชัย ผโลทัยถเกิง เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (ก.ส.ล.) เปิดเผยว่า ผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับยางพารา โดยเฉพาะผู้ส่งออกควรเข้ามาใช้ AFET เป็นเครื่องมือในการลดความเสี่ยงจากแนวโน้มราคาที่สูงขึ้นในช่วงนี้ให้มากขึ้น โดยปัจจุบันมีผู้ประกอบการเข้าไปใช้ประโยชน์ใน AFET เพื่อลดความเสี่ยงเพียงประมาณ ร้อยละ 10 ของปริมาณยางพาราที่ส่งออกไปยังต่างประเทศเท่านั้น
"หากมีการเข้ามาใช้ประโยชน์มากกว่านี้ จะช่วยให้ราคายางพารามีเสถียรภาพและเป็นราคาอ้างอิงในตลาดโลกได้มากขึ้น เพราะประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกยางพารารายใหญ่ของโลกจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง" นายวันชัย กล่าว
ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงของราคายางในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET) เวลานี้ เป็นไปตามหลักดีมานด์ซัพพลายอย่างแท้จริง
"สภาพความเปลี่ยนแปลง ความผันผวนของราคายางตอนนี้เป็นไปตามสภาพตลาดตามหลักดีมานด์ซัพพลาย ความเสียหายของยางไม่ต้องน้ำท่วมหรอก แค่ฝนตกก็มีปัญหาแล้ว"นายวันชัย กล่าว
อนึ่ง วานนี้ (3 พ.ย.) ราคาส่งมอบ 7 เดือนข้างหน้า (มิถุนายน 2554) ทำสถิติราคาสูงสุดใหม่ที่กิโลกรัมละ 125.50 บาท โดยราคาซื้อขายที่มีแนวโน้มสูงขึ้นก็เป็นไปตามภาวะตลาด ซึ่งช่วงนี้มีฝนตกชุกน้ำท่วมในภาคใต้ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตยางทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยลง ประกอบกับความต้องการในตลาดโลกยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง