สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดทรงตัวเมื่อคืนนี้ (11 พ.ย.) อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบยังคงเคลื่อนไหวเหนือระดับ 87 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนขานรับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) และสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ที่ปรับเพิ่มคาดการณ์ความต้องการพลังงานทั่วโลก นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายโดยรวมยังได้ปัจจัยหนุนจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ร่วงลงอย่างเหนือความคาดหมายในรอบสัปดาห์ที่แล้ว
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ทรงตัวที่ระดับ 87.81 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนธ.ค.ลดลง 1.53 เซนต์ ปิดที่ 2.4266 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 1 เซนต์ ปิดที่ 2.2357 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 15 เซนต์ ปิดที่ 88.81 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบได้แรงหนุนหลังจากกลุ่มโอเปคปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการขยายตัวของความต้องการพลังงานทั่วโลกในปี 2553 ขึ้นอีก 190,000 บาร์เรล เป็น 1.3 ล้านบาร์เรล/วัน และได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการขยายตัวของความต้องการพลังงานในปี 2554 ขึ้นอีก 120,000 บาร์เรล/วัน เป็น 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน
นอกจากนี้ โอเปคยังกล่าวในรายงาน "World Oil Outlook" ฉบับล่าสุดว่า ความต้องการพลังงานทั่วโลกจะพุ่งขึ้นกว่า 40% ภายในปี 2573 โดยความต้องการพลังงานในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาจะขยายตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นเพราะจำนวนประชากรและเศรษฐกิจที่ขยายตัวขึ้นเท่านั้น แต่เป็นเพราะประชาชนในประเทศเหล่านี้มีความเชื่อมั่นในความมั่นคงด้านพลังงานมากขึ้นด้วย
การคาดการณ์ของโอเปคสอดคล้องกับรายงาน "World Energy Outlook" ของ IEA ที่ระบุว่า ปริมาณการใช้พลังงานทั่วโลก จะพุ่งขึ้น 36% เป็น 1.67 หมื่นล้านเมตริกตันภายในปี 2578 โดยคาดว่าความต้องการพลังงานในจีนจะทะยานขึ้น 75% ซึ่งจะคิดเป็นสัดส่วนกว่า 1 ใน 3 ของปริมาณการใช้พลังงานทั่วโลก
นอกจากนี้ IEA คาดว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 135 ดอลลาร์/บาร์เรล และจะเคลื่อนไหวที่ระดับเฉลี่ย 113 ดอลลาร์/บาร์เรลภายในปี 2578 เมื่อเทียบกับระดับเฉลี่ยที่ 60 ดอลลาร์/บาร์เรลในปี 2552 โดย IEA ระบุว่า ราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ดีมานด์อยู่ในระดับที่สมดุลกับซัพพลาย
นอกเหนือจากการคาดการณ์ของโอเปคและ IEA แล้ว ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังคงได้แรงหนุนจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 5 พ.ย.ร่วงลง 3.3 ล้านบาร์เรล แตะที่ 364.9 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล
เทรดเดอร์จับตาดูปริมาณการใช้พลังงานและการจับจ่ายใช้สอยในด้านต่างๆ ในช่วงเทศกาลวันหยุดในสหรัฐ รวมถึงวันขอบคุณพระเจ้าและเทศกาลคริสต์มาส เพื่อเป็นปัจจัยบ่งชี้ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคในช่วงไตรมาส 4 ของสหรัฐ
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคเดือนก.ย.ขยับขึ้นเพียง 0.2% น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4% เนื่องจากรายได้ส่วนบุคคลเดือนก.ย.ปรับตัวลดลง 0.1% ซึ่งเป็นสถิติที่ลดลงครั้งแรกในรอบ 14 เดือน และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่ารายได้ส่วนบุคคลจะเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.ย.