ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบปิดพุ่ง $1.41 ขณะนักลงทุนคลายวิตกปัญหาหนี้ไอร์แลนด์

ข่าวต่างประเทศ Friday November 19, 2010 06:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเป็นวันแรกในรอบสัปดาห์เมื่อคืนนี้ (18 พ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากความเชื่อมั่นที่ว่า ไอร์แลนด์จะสามารถแก้วิกฤตหนี้สาธารณะได้ด้วยการรับความช่วยเหลือจากสหภาพยุโรป นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังคงได้ปัจจัยบวกจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ร่วงลงเกินคาดในรอบสัปดาห์ที่แล้ว

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 1.41 ดอลลาร์ ปิดที่ 81.85 ดอลลาร์/บาร์เรล

ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 1.77 เซนต์ ปิดที่ 2.2951 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 7.04 เซนต์ ปิดที่ 2.2283 ดอลลาร์/แกลลอน

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอนส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 1.77 ดอลลาร์ ปิดที่ 85.05 ดอลลาร์/บาร์เรล

นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาน้ำมัน NYMEX อย่างหนาแน่น ซึ่งช่วยหนุนสัญญาน้ำมันดิบทะยานขึ้นปิดแดนบวกเป็นวันแรกในรอบ 5 วันทำการ หลังจากนายแพทริก โฮโนฮาน ผู้ว่าการธนาคารกลางไอร์แลนด์คาดว่า ไอร์แลนด์จะตกลงรับเงินช่วยเหลือจากสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เป็นจำนวนหลายหมื่นล้านยูโร เพื่อบรรเทาปัญหาหนี้สาธารณะในประเทศ

ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังคงได้รับปัจจัยบวกจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 12 พ.ย.ร่วงลง 7.29 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 357.6 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล

ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 1.11 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 158.79 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะร่วงลง 2.2 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินร่วงลง 2.66 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 207.68 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะขยับลงเพียง 800,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น 1.6% แตะระดับ 84%

นอกเหนือจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบที่บ่งชี้ว่าดีมานด์พลังงานในสหรัฐยังคงแข็งแกร่งแล้ว ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังขานรับรายงานของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียที่ระบุว่า ดัชนีกิจกรรมการผลิตในเขตมิด-แอตแลนติกของสหรัฐขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 22.5 จุดในเดือนพ.ย. จากเดือนก.ค.ที่ระดับ 1.0 จุด ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 5.0 จุด และยังสะท้อนให้เห็นว่าภาคการผลิตของสหรัฐยังคงฟื้นตัวแม้ในช่วงที่เศรษฐกิจยังคงเผชิญกับภาวะไม่แน่นอนก็ตาม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ