สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (22 พ.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าปัญหานี้ไอร์แลนด์อาจลุกลามไปทั่วยุโรป และส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของยุโรปด้วย หลังจากเจ้าหน้าที่สหภาพยุโรปแสดงความกังวลว่า วงเงินที่ไอร์แลนด์ได้รับความช่วยเหลือในครั้งนี้อาจไม่เพียงพอที่จะช่วยให้ไอร์แลนด์แก้ปัญหาหนี้สาธารณะได้
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนม.ค.ปิดลบ 24 เซนต์ หรือ 0.29% แตะระดับ 81.74 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 80.68-82.87 ดอลลาร์
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนม.ค.ปิดลบ 38 เซนต์ หรือ 0.5% แตะที่ 83.96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 83.11-85.45 ดอลลาร์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดน้ำมันนิวยอร์กถูกกดดันจากความกังวลที่ว่า ปัญหาหนี้สาธารณะของไอร์แลนด์อาจกระจายวงกว้างและสั่นคลอนเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของยุโรป โดยเมื่อวานนี้ไอร์แลนด์ได้ขอความช่วยเหลืออย่างเป็นทางการจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าไอร์แลนด์ต้องดำเนินการโครงสร้างภาคธนาคารและลดยอดขาดดุลงบประมาณให้อยู่ในระดับไม่เกิน 3% ของตัวเลขจีดีพี
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่อียูได้ออกมาแสดงความกังวลว่า วงเงินราว 8-9 หมื่นล้านยูโรที่คาดว่าไอเอ็มเอฟและอียูจะให้ความช่วยเหลือไอร์แลนด์นั้น อาจไม่เพียงพอที่จะช่วยให้รัฐบาลไอร์แลนด์สามารถกู้วิกฤตในภาคธนาคาร หรือแก้ปัญหาหนี้สาธารณะภายในประเทศได้ ซึ่งการแสดงความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่อียูส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลว่า ปัญหาหนี้สาธารณะอาจลุกลามทั่วยุโรป และทำให้นักลงทุนจับตาดูความเคลื่อนไหวด้านการเงินของประเทศอื่นๆในกลุ่มยูโรโซน รวมถึงสเปนและโปรตุเกส
นอกจากนี้ นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบอันเนื่องมาจากความกังวลกับข่าวที่ว่า ธนาคารกลางจีนประกาศเพิ่มเพดานกันสำรองของธนาคารพาณิชย์อีก 0.50% ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวทำให้นักลงทุนกังวลว่า จีนอาจจะใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อควบคุมการขยายตัวของเศรษฐกิจ รวมถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อความต้องการพลังงานด้วย
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 2.3 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 900,000 บาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจเพิ่มขึ้น 0.2%
นอกเหนือจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบแล้ว นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ด้วย รวมถึงการประมาณการตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ครั้งที่ 2 ยอดขายบ้านมือสองเดือนต.ค. ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนต.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์