ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: วิตกจีนคุมเงินเฟ้อ-ดอลล์แข็ง ฉุดน้ำมันดิบปิดลบ 49 เซนต์

ข่าวต่างประเทศ Wednesday November 24, 2010 07:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (23 พ.ย.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 3 วันทำการเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก หลังจากรัฐบาลจีนประกาศใช้มาตรการควบคุมเงินเฟ้อและราคาสินค้าภายในประเทศ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยลบมากขึ้นจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นอันเนื่องจากข่าวการยิงปะทะกันระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ที่บริเวณชายแดน

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนม.ค.ปิดลบ 49 เซนต์ แตะที่ 81.25 ดอลลาร์/บาร์เรล

ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 1.90 เซนต์ ปิดที่ 2.2496 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินเดือนต.ค.ลดลง 1.77 เซนต์ ปิดที่ 2.1342 ดอลลาร์/แกลลอน

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอนส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 71 เซนต์ ปิดที่ 83.25 ดอลลาร์/บาร์เรล

นักลงทุนยังคงเทขายสัญญาน้ำมันดิบเนื่องจากความกังวลที่ว่า มาตรการควบคุมเงินเฟ้อและราคาสินค้าภายในประเทศของจีนจะส่งผลให้ยอดการนำเข้าน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันประเภทอื่นๆของจีนลดน้อยลงด้วย โดยเมื่อวานนี้ รัฐบาลจีนมีสั่งห้ามกักตุนน้ำมัน ถ่านหิน และสินค้าโภคภัณฑ์สำคัญอื่นๆ เพื่อควบคุมราคาที่พุ่งสูง แม้ว่ารัฐบาลได้ใช้มาตรการต่างๆ เพื่อควบคุมเงินเฟ้อไปก่อนหน้านี้แล้วก็ตาม

ขณะเดียวกัน รัฐบาลจีนยังสั่งห้ามหลายมณฑลมิให้จำกัดการขายถ่านหินนอกมณฑลของตนเอง และรับประกันว่ามีซัพพลายเพียงพอต่อความต้องการ พร้อมกับสั่งการให้รัฐบาลท้องถิ่นปราบปรามการกักตุนสินค้า การปั่นประมูลเพื่อให้ราคาพุ่งสูง และการกระทำที่ผิดกฎหมายอื่นๆ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าจีนกำลังพยายามควบคุมเงินเฟ้อที่พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 25 เดือนในเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นผลมาจากราคาอาหาร ราคาเชื้อเพลิงและสินค้าโภคภัณฑ์ที่สำคัญอื่นๆ พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง

นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นผลมาจากความตื่นตระหนกกับข่าวที่ว่าเกาหลีเหนือได้ระดมยิงกระสุนปืนใหญ่หลายร้อยลูกเข้าใส่เกาะยอนเปียงเพื่อตอบโต้การซ้อมรบของเกาหลีใต้ เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายสิบคน และคาดว่าจะจุดปะทุให้เกิดปัญหาความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี

นักลงทุนจับตาดูการประชุมคณะรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ในวันนี้ (24 พ.ย.) โดยที่ประชุมจะประเมินผลกระทบที่มีต่อตลาดการเงินและเศรษฐกิจ เนื่องจากการปะทะกันระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ส่งผลให้ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียและตลาดหุ้นในภูมิภาคอื่นร่วงลงอย่างหนัก

นอกเหนือจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาในคาบสมุทรเกาหลีและมาตรการควบคุมเงินเฟ้อของจีนแล้ว ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังคงถูกกดดันจากความกังวลเรื่องปัญหาหนี้สาธารณะในไอร์แลนด์ หลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส เตือนว่าอาจจะลดอันดับความน่าเชื่อถือไอร์แลนด์ เพราะเกรงว่าการที่ไอร์แลนด์รับความช่วยเหลือด้านการเงินจากสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) อาจส่งผลให้ตัวเลขหนี้สาธารณะของไอร์แลนด์เพิ่มขึ้นด้วย

นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 2.3 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 900,000 บาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจเพิ่มขึ้น 0.2%

นอกจากนี้ นักลงทุนยังติดตามการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ในเดือนหน้าที่ประเทศเอกวาดอร์ หลังจากนายราฟาเอล รามิเรซ ประธานปิโตรเลออส เดอ เวเนซูเอลา ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของรัฐบาลเวเนซูเอลา กล่าวว่า โอเปคยังไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มปริมาณการผลิต


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ