สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (2 ธ.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลยอดการทำสัญญาขายบ้านที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนหลังจากนายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศความพร้อมในการอัดฉีดสภาพคล่องให้กับธนาคารพาณิชย์ เพื่อคลี่คลายวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรป ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับยุโร ซึ่งเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่หนุนสัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นด้วย
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 1.25 ดอลลาร์ ปิดที่ 88 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 88.05 - 87.00 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 5.49% แตะที่ 2.3553 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 4.9 เซนต์ ปิดที่ 2.4546 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 1.77 ดอลลาร์ ปิดที่ 90.69 ดอลลาร์/บาร์เรล
ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรป หลังจากธนาคารกลางยุโรปประกาศขยายนโยบายผ่อนคลายทางการเงินพิเศษ เพื่อแสดงถึงความพร้อมที่จะอัดฉีดสภาพคล่องให้กับธนาคารพาณิชย์ หลังจากวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรปส่งผลให้สกุลเงินยูโรร่วงลงอย่างหนัก
อีซีบีได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจยุโรปว่าจะขยายตัวราว 1.6 - 1.8% ในปี 2553 และคาดว่าจะขยายตัว 0.7 - 2.1 ในปี 2554 เนื่องจากยอดการส่งออกและอุปสงค์ภายในประเทศมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะพยุงเศรษฐกิจให้ขยายตัวได้
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานของสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติที่ระบุว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ประจำเดือนต.ค.ของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 10.4% แตะที่ 89.3 จุด จากเดือนก.ย.ที่ระดับ 80.9 จุด สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลง 0.5% ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะซบเซาในตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐ
นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payrolls) ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 140,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวอยู่ที่ 9.6%