สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (6 ธ.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการที่เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า การใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสอง หรือ QE2 ด้วยการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลนั้น อาจมีมูลค่าสูงกว่า 6 แสนล้านดอลลาร์ตามที่ได้มีการประกาศไปเมื่อเดือนที่แล้ว อย่างไรก็ตาม การที่เบอร์นันเก้แสดงความคิดเห็นในด้านลบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐได้ส่งผลสกัดช่วงบวกของตลาด และทำให้สัญญาน้ำมันดีดตัวขึ้นเพียงเล็กน้อย
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนม.ค.ขยับขึ้น 19 เซนต์ ปิดที่ 89.38 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 1.04 เซนต์ ปิดที่ 2.3417 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนม.ค.ลดลง 1.17 เซนต์ ปิดที่ 2.4757 ดอลลาร์/แกลลอน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดน้ำมันนิวยอร์กขานรับข่าวการแสดงความคิดเห็นของเบอร์นันเก้ที่ว่า การใช้มาตรการ QE2 ด้วยการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลนั้น อาจมีมูลค่าสูงกว่า 6 แสนล้านดอลลาร์ตามที่ได้มีการประกาศไปเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งจะขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของโครงการ QE2 รวมถึงแนวโน้มเงินเฟ้อและเศรษฐกิจ
ในการประชุมเมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดประกาศใช้มาตรการ QE2 ด้วยการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวเพิ่มขึ้นอีก 6 แสนล้านดอลลาร์ โดยจะทยอยเข้าซื้อเดือนละ 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ไปจนถึงกลางปีหน้า ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว และเพื่อทำให้ต้นทุนการกู้ยืมลดต่ำลง
อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมัน NYMEX เป็นไปอย่างซบเซา เมื่อเบอร์นันเก้ยอมรับว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐยังคงเป็นไปอย่างล่าช้า และสหรัฐอาจต้องใช้เวลา 4-5 ปี กว่าที่อัตราว่างงานจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติมากกว่านี้ที่ราว 5-6% แต่ถึงกระนั้นก็ตาม เบอร์นันเก้เชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจไม่น่าจะกลับเข้าสู่ภาวะถดถอยอีก เนื่องจากเศรษฐกิจในภาคส่วนต่างๆ อาทิ ภาคที่อยู่อาศัยไม่สามารถตกต่ำลงไปได้มากกว่านี้แล้ว
คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชนของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีแนวโน้มการจ้างงานเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 1.4% แตะระดับ 99 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี บ่งชี้ว่าตัวเลขการจ้างงานในสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัวขึ้นในปี 2554
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพุธนี้ และการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ รวมถึงผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และรายงานงบประมาณเดือนพ.ย.ของรัฐบาลกลางสหรัฐ