ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: ดอลล์แข็ง ถ่วงน้ำมันดิบปิดลบ 69 เซนต์

ข่าวต่างประเทศ Wednesday December 8, 2010 07:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (7 ธ.ค.) เพราะถูกกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโรและเยน นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบทะยานขึ้นเหนือระดับ 90 ดอลลาร์/บาร์เรลในระหว่างวัน ขานรับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ว่า ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มพุ่งขึ้นแตะระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลในปีหน้า

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนม.ค.ปรับตัวลง 69 เซนต์ หรือ 0.77% ปิดที่ 88.69 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยในระหว่างวันสัญญาน้ำมันดิบทะยานขึ้นไปแตะระดับ 90.76 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค.2551

ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 2.4702 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 1.87 เซนต์ ปิดที่ 2.323 ดอลลาร์/แกลลอน

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 6 เซนต์ ปิดที่ 91.39 ดอลลาร์/บาร์เรล

นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบหลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโรและเยน โดยค่าเงินยูโรถูกกดดันอย่างหนักจากการที่นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป นอกจากนี้ นักลงทุนบางกลุ่มยังเข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบทะยานขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในระหว่างวันที่ 90.76 ดอลลาร์ อันเป็นผลมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าราคาน้ำมันดิบจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 100 ดอลลาร์ในปีหน้า

คอนลีย์ เทอร์เนอร์ นักวิเคราะห์จาก Wall Street Strategies กล่าวกับสำนักข่าวซินหัวว่า "ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มพุ่งขึ้นแตะแนวต้านทางจิตวิทยาที่ระดับ 90 ดอลลาร์/บาร์เรลภายในปีนี้ ขณะที่เทรดเดอร์และนักวิเคราะห์คาดการณ์กันไว้แล้วว่า ราคาน้ำมันดิบจะพุ่งขึ้นไปแตะระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลภายในปลายปี 2554"

รายงานคาดการณ์ประจำเดือนของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) บ่งชี้ว่า ตัวเลขการใช้น้ำมันทั่วโลกอาจเพิ่มขึ้นเพียง 1.43 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2554 ซึ่งลดลง 10,000 บาร์เรล/วันจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 1.44 ล้านบาร์เรล/วัน

สัญญาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX แกว่งตัวอยู่ในช่วง 70-89 ดอลลาร์นับตั้งแต่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสอง หรือ QE2 ด้วยการเข้าซื้อพันธบัตรมูลค่า 6 แสนล้านดอลลาร์เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นเหนือระดับ 90 ดอลลาร์ในช่วงเช้าของวานนี้ หลังจากประธานาธิบดีบารัค โอบามาและแกนนำพรรครีพับลิกันตกลงที่จะขยายโครงการลดหย่อนภาษีที่อดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช ได้ริเริ่มเอาไว้ พร้อมทั้งขยายขอบข่ายโครงการให้สวัสดิการแก่ผู้ไม่มีงานทำ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวทำให้นักลงทุนเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายผู้บริโภค และหนุนเศรษฐกิจให้ขยายตัวต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า

นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพุธ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบอาจจะลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นอาจลดลง 0.4 ล้านบาร์เรล, สต็อกน้ำมันเบนซินอาจเพิ่มขึ้น 900,000 บาร์เรล และคาดว่า อัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจเพิ่มขึ้น 1.3%

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ในวันที่ 11 ธ.ค.นี้ที่ประเทศเอกวาดอร์ หลังจากรมว.พลังงานของแองโกลาและเวเนซูเอลา คาดการณ์ว่า โอเปคจะคงโควต้าการผลิตน้ำมันไว้ที่ 24.845 ล้านบาร์เรล/วัน ในการประชุมครั้งนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ