ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (7 ธ.ค.) สัญญาข้าวสาลีร่วงจากสถิติสูงสุดในรอบ 1 เดือน หลังจากที่รัฐบาลออสเตรเลียปรับเพิ่มคาดการณ์ยอดผลผลิตประจำปี ในขณะที่ราคาข้าวโพดและถั่วเหลืองลดลงต่อเนื่อง เพราะฝนตกมากขึ้นในอเมริกาใต้
สัญญาข้าวโพดส่งมอบในเดือนมีนาคมร่วงลง 6.5 เซนต์ หรือ 1.1% แตะ 5.6175 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ส่วนสัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนมีนาคมร่วง 8.25 เซนต์ หรือ 1.0% แตะ 7.8475 ดอลลาร์ต่อบุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบในเดือนมกราคมลดลง 3.0 เซนต์ หรือ 0.23% แตะ 12.885 ดอลลาร์ต่อบุชเชล
ทั้งนี้ รัฐบาลออสเตรเลียคาดการณ์ว่า ผลผลิตข้าวสาลีของออสเตรเลียอาจพุ่งขึ้นแตะสถิติสูงสุดที่ระดับ 26.8 ล้านตัน เนื่องจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูก ซึ่งข่าวดังกล่าวเพิ่มแรงกดดันต่อราคาข้าวสาลีที่เพิ่มขึ้นถึงสองอาทิตย์ติดต่อกัน
สัญญาข้าวสาลีทะยานขึ้น 16% ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาเนื่องจากเกิดฝนตกหนักระหว่างเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคมในภาคตะวันออกของออสเตรเลีย ซึ่งทำให้นักลงทุนเกิดความวิตกกังวลว่าสภาพอากาศอาศจะทำให้อุปทานและคุณภาพของข้าวสาลีจากออสเตรเลียลดลง ขณะเดียวกันนักลงทุนคาดว่าออสเตรเลียจะเป็นผู้ส่งออกข้าวสาลีรายใหญ่อันดับ 4 ของโลกในปีนี้
อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์กล่าวว่า การคาดการณ์ของออสเตรเลียอาจช่วยหนุนให้อุปทานข้าวสาลีมีเสถียรภาพมากขึ้น แต่ตลาดก็ยังคงให้ความสำคัญกับคุณภาพไม่ใช่เฉพาะปริมาณ
นักวิเคราะห์กล่าวว่า อุปทานของข้าวสาลีในตลาดโลกมีปริมาณลดลงเนื่องจากภัยแล้งในรัสเซียและยุโรปตะวันออกทำให้ผลผลิตภายในประเทศลดลง โดยยอดผลผลิตในรัสเซียลดลงถึง 38% ในปีนี้ ส่งผลให้รัสเซียต้องขยายระยะเวลาการสั่งห้ามส่งออกไปจนถึงวันที่ 1 มกราคม
ในขณะเดียวกัน สัญญาข้าวโพดและถั่วเหลืองปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน เนื่องจากฝนที่ตกมากขึ้นในบราซิลและอาร์เจนตินาทำให้มีสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูก
ทั้งนี้ อาร์เจนตินาวัดปริมาณน้ำฝนได้ 0.5 นิ้ว (1.3 ซ.ม.) ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และคาดว่าว่าพายุลูกใหม่อาจทำให้ฝนตกมากขึ้นและสามารถวัดปริมาณน้ำฝนได้ถึง 1 นิ้วในเขตการเพาะปลูกที่แห้งแล้งที่สุดของประเทศ ในขณะที่ปริมาณฝนที่ตกในสัปดาห์หน้าคาดว่าจะส่งผลให้พืชที่เพาะปลูกในบราซิลได้ผลผลิตที่ดี สำนักข่าวซินหัวรายงาน