ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (13 ธ.ค.) สัญญาธัญพืชปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจีนตัดสินใจไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามที่นักลงทุนคาดการณ์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งช่วยลดความวิตกกังวลของตลาดที่ว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจทำให้ภาวะเศรษฐกิจโลกซบเซาลง
สัญญาข้าวโพดส่งมอบในเดือนมีนาคมพุ่ง 14.25 เซนต์ หรือ 2.5% แตะ 5.885 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ส่วนสัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนมีนาคมดีดตัว 4.75 เซนต์ หรือ 0.6% แตะ 7.8025 ดอลลาร์ต่อบุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบในเดือนมกราคมทะยาน 29.5 เซนต์ หรือ 2.3% แตะ 13. 025 ดอลลาร์ต่อบุชเชล
เทรดเดอร์กล่าวว่า ความแข็งแกร่งของปัจจัยภายนอกช่วยหนุนตลาดธัญพืชดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ ซึ่งได้แก่ การที่ธนาคารกลางจีนไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมภาวะเงินเฟ้อตามที่นักลงทุนในตลาดได้คาดการณ์ไว้ รวมทั้งการที่กลุ่มประเทศยูโรโซนมีมุมมองในแง่บวกต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป และมีปัจจัยบ่งชี้ว่าการขยายโครงการลดหย่อนภาษีของสหรัฐอาจได้รับการรับรองจากวุฒิสภาให้บังคับใช้เป็นกฏหมาย
เดวิด ไฮทาวเวอร์ ประธานและหัวหน้านักวิเคราะห์ของไฮทาวเวอร์รีพอร์ท กล่าวว่า "ตลาดข้าวโพดและถั่วเหลืองดีดตัวขึ้นในการซื้อขายวันจันทร์ เพราะตลาดได้รับปัจจัยบวกจากการที่จีนไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา"
ในขณะเดียวกัน การที่สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลยูโรเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ยังส่งผลดีต่อการส่งออกสินค้าเกษตรของสหรัฐ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาธัญพืชปรับตัวลดลงถัวนหน้าในการซื้อขายเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาเนื่องจากตลาดคาดการณ์ว่าจีนอาจประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงสุดสัปดาห์เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อการฟื้นตัวเของเศรษฐกิจโลก และทำให้อุปสงค์ในธัญพืชของสหรัฐลดลงด้วย