ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (20 ธ.ค.) สัญญาธัญพืชปรับตัวเพิ่มขึ้นถ้วนหน้าหลังตลาดคาดการณ์ว่าอุปทานอาจลดลงเนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูก ถึงแม้ว่าเงินสกุลดอลลาร์จะมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นก็ตาม
สัญญาข้าวโพดส่งมอบในเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้น 3 เซนต์ หรือ 0.5% แตะ 5.995 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ส่วนสัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนมีนาคมขยับขึ้น 12.75 เซนต์ หรือ 1.68% แตะ 7.695 ดอลลาร์ต่อบุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบในเดือนมกราคมพุ่ง 16.5 เซนต์ หรือ 1.27% แตะ 13.1525 ดอลลาร์ต่อบุชเชล
เทรดเดอร์กล่าวว่า ราคาข้าวโพดขยับเพิ่มขึ้นเนื่องจากนักลงทุนมองว่าสภาพอากาศที่หนาวเย็นอาจทำให้แม่น้ำกลายเป็นน้ำแข็งและทำให้การขนส่งสินค้าทางเรือต้องหยุดชะงัก ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจทำให้ราคาข้าวโพดทะยานขึ้น
ทั้งนี้ สัญญาข้าวสาลีได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากในการซื้อขายระหว่างวัน โดยสัญญาส่งมอบเดือนมีนาคมทำสถิติปิดสูงสุดในสัปดาห์
เทรดเดอร์กล่าวว่า ราคาที่ปรับตัวสูงขึ้นมีสาเหตุมาจากความวิตกกังวลในอุปทาน เนื่องจากพื้นที่เพาะปลูกข้าวสาลีแดงในฤดูหนาวของสหรัฐยังคงแห้งแล้งอย่างต่อเนื่อง และอาจทำให้อุปทานในสหรัฐซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวสาลีรายใหญ่สุดของโลกลดลง
นอกจากนี้ ความล่าช้าในการเก็บเกี่ยวและคุณภาพที่ลดลงในออสเตรเลียยังเป็นอีกปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคา เนื่องจากการพยากรณ์อากาศบ่งชี้ว่าอาจมีฝนตกหนักในเขตเพาะปลูกทางภาคตะวันออกของประเทศและจะทำให้พื้นที่ชื้นแฉะตลอดสัปดาห์
ทั้งนี้ ตลาดยังจับตามองการขยายระยะเวลาห้ามส่งออกธัญพืชของรัสเซีย ในขณะที่มีรายงานว่าอาจเกิดภาวะติดขัดในการขนส่งข้าวสาลีของเกษตรกรในอาร์เจนตินาไปยังโรงสีและช่องทางการส่งออก
ส่วนราคาถั่วเหลืองที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ในการซื้อขายระหว่างวัน เทรดเดอร์ให้เหตุผลว่าสาเหตุเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสภาพอากาศที่แห้งแล้งในพื้นที่เพาะปลูกถั่วเหลืองของอาร์เจนตินาโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองบัวโนสไอเรส สำนักข่าวซินหัวรายงาน