สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดอ่อนตัวลงเมื่อคืนนี้ (27 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าความต้องการพลังงานในจีนอาจลดน้อยลง หลังจากธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อและควบคุมเศรษฐกิจไม่ให้ขยายตัวร้อนแรงเกินไป
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 51 เซนต์ ปิดที่ 91 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 2.42 เซนต์ ปิดที่ 2.5166 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 2.17 เซนต์ ปิดที่ 2.4209 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 8 เซนต์ ปิดที่ 93.85 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบเพราะกังวลว่า ความต้องการพลังงานในจีนซึ่งเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่ จะชะลอตัวลง หลังจากธนาคารกลางจีนประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ประเภท 1 ปี เป็น 5.81% และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประเภท 1 ปีเป็น 2.75% ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลว่าจะทำให้ต้นทุนการกู้ยืมปรับตัวสูงขึ้น และส่งผลให้ความต้องการพลังงานทั้งในภาคครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรมหดตัวลงด้วย
ธนาคารกลางจีนประกาศขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อและควบคุมเศรษฐกิจไม่ให้ขยายตัวรุนแรงเกินไป หลังจากดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ของจีน ซึ่งเป็นดัชนีวัดภาวะเงินเฟ้อที่สำคัญ พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 28 เดือนที่ 5.1% ในเดือนพ.ย. และยอดการปล่อยเงินกู้ใหม่ของธนาคารพาณิชย์พุ่งขึ้นแตะระดับ 7.45 ล้านล้านหยวนในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ เมื่อเทียบกับเป้าหมายตลอดปี 2553 ของรัฐบาลที่ระดับ 7.5 ล้านล้านหยวน
นายมูฮัมหมัด อาลี คาติบี ผู้ว่าการกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ของอิหร่าน คาดว่า ราคาน้ำมันดิบอาจปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากขณะนี้อุปสงค์และอุปทานในตลาดอยู่ในภาวะสมดุล ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) จะจัดการประชุมฉุกเฉินในระยะนี้ ซึ่งการคาดการณ์ของนายคาติบีสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค และมอร์แกน สแตนลีย์ คาดว่า ราคาน้ำมันดิบจะพุ่งแตะ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลในปี 2554
อย่างไรก็ตาม สำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์ว่า โอเปคจะเพิ่มเพดานการผลิตน้ำมันในปีหน้า เนื่องจากความต้องการน้ำมันทั่วโลกในปี 2553 และ 2554 มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น โดย IEA ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ความต้องการน้ำมันทั่วโลกในปี 2554 เป็น 88.8 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเพิ่มขึ้น 260,000 บาร์เรลจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ และคาดว่าความต้องการน้ำมันในปี 2553 จะอยู่ที่ 87.4 ล้านบาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้น 130,000 บาร์เรลจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้ พร้อมกับจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ด้วย รวมถึงราคาบ้านเดือนต.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนธ.ค. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีภาคการผลิตเดือนธ.ค.