สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (29 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบทะยานขึ้นแข็งแกร่งเมื่อวันก่อน ขณะที่วอลุ่มการซื้อขายมีอยู่ไม่มากนักเนื่องจากนักลงทุนลดการทำโพสิชั่นก่อนช่วงวันหยุดปลายปี อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบยังคงเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 91 ดอลลาร์ได้เพราะตลาดได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการคาดการณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐจะปรับตัวลดลงเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นภายในประเทศ
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ขยับลง 37 เซนต์ ปิดที่ 91.12 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 90.80 - 91.53 ดอลลาร์
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอนส่งมอบเดือนกงพ.ลดลง 24 เซนต์ ปิดที่ 94.14 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไรสัญญาน้ำมันดิบ ในขณะที่วอลุ่มการซื้อขายเบาบางมากเนื่องจากนักลงทุนลดการทำโพสิชั่นช่วงปลายปี นอกจากนี้ การที่สหรัฐไม่มีกำหนดการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในวันพุธ ยังเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ภาวะการซื้อขายเงียบเหงาลงด้วย
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบยังสามารถเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 91 ดอลลาร์/บาร์เรล เพราะตลาดได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการคาดการณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐจะปรับตัวลดลงเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็นภายในประเทศ โดยดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินของประเทศคู่ค้าหลักของสหรัฐ ลดลง 0.6%
มูฮัมหมัด อาลี คาติบี เจ้าหน้าที่ด้านพลังงานของอิหร่าน คาดว่า ราคาน้ำมันดิบอาจปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากอุปสงค์และอุปทานในตลาดอยู่ในภาวะสมดุลในขณะนี้ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจทำให้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) มองว่ายังไม่มีความจำเป็นที่จะจัดการประชุมฉุกเฉินในระยะนี้
การคาดการณ์ของนายคาติบีสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค และมอร์แกน สแตนลีย์ คาดว่า ราคาน้ำมันดิบจะพุ่งแตะ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลในปี 2554
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐจะเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ในวันพฤหัสบดีนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะร่วงลง 2.9 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 500,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะพุ่งขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล และคาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจลดลง 0.2%