สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงต่ำกว่าระดับ 90 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (6 ม.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะตึงตัวในตลาดแรงงาน หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรซึ่งทางการสหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันศุกร์
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 1.92 ดอลลาร์ หรือ 2.13% ปิดที่ 88.38 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 87.85 - 90.71 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 98 เซนต์ ปิดที่ 94.52 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานในรอบสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้น 18,000 ราย แตะระดับ 409,000 ราย มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 400,000 ราย
ทั้งนี้ แม้ว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว และแม้ว่ากระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ร่วงลง 3,500 ราย มาอยู่ที่ระดับ 410,750 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปีครึ่ง แต่นักลงทุนในตลาดน้ำมัน NYMEX ยังคงกังวลว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังฟื้นตัวไม่มากเท่ากับที่มีการประเมินกันไว้ก่อนหน้านี้
กระแสความวิตกกังวลเกี่ยวภาวะตึงตัวในตลาดแรงงานของสหรัฐส่งผลให้นักลงทุนแห่เข้าไปซื้อขายในสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัย รวมถึงสกุลเงินดอลลาร์ โดยเมื่อคืนนี้ค่าเงินดอลลาร์พุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ซึ่งการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ยังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดสัญญาน้ำมันดิบร่วงลงด้วย
นักลงทุนส่วนใหญ่จับตาดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (nonfarm payroll) ประจำเดือนธ.ค.ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 140,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 9.7%