ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนที่ผ่านมา (10 ม.ค.) สัญญาข้าวโพดและถั่วเหลืองดีดตัวเนื่องจากการคาดการณ์ว่าสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยจะส่งผลต่อกระทบการเจริญเติบโตของธัญพืชในอเมริกาใต้ ส่วนสัญญาข้าวสาลีร่วงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์เนื่องจากการคาดการณ์เกี่ยวกับการเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกผลผลิตในช่วงฤดูหนาวของสหรัฐ
สัญญาข้าวโพดส่งมอบในเดือนมีนาคมทะยาน 12 เซนต์ หรือ 2% แตะ 6.07 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ส่วนสัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนมีนาคมลดลง 6.75 เซนต์ หรือ 0.585% แตะ 7.6725 ดอลลาร์ต่อบุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบในเดือนมีนาคมพุ่ง 15.5 เซนต์ หรือ 1.1% แตะ 13.805 ดอลลาร์ต่อบุชเชล
เทรดเดอร์กล่าวว่า การคาดการณ์เกี่ยวกับปริมาณผลผลิตที่ลดลงในอาร์เจนตินาและบราซิลได้ผลักดันให้ราคาข้าวโพดและถั่วเหลืองปรับตัวสูงขึ้น
ทั้งนี้ รายงานพยากรณ์อากาศระบุว่า ภาวะแห้งแล้งและอากาศที่ร้อนกว่า 100 องศาฟาเรนไฮต์ (38 องศาเซลเซียส) ในบางพื้นที่ของอาร์เจนตินาในสัปดาห์หน้าจะเพิ่มแรงกดดันแก่การเพาะปลูกข้าวโพดและถั่วเหลืองมากขึ้น
นอกจากนี้ ราคาข้าวโพดและถั่วเหลืองยังได้รับอานิสงส์จากการทะยานขึ้นของราคาน้ำมันดิบ ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 2.2% ซึ่งได้หนุนแนวโน้มสำหรับเอธานอลที่อิงกับข้าวโพดและเชื้อเพลิงชีวภาพที่ผลิตจากถั่วเหลือง
ด้านตลาดข้าวสาลีมีการซื้อขายลดลงในสัปดาห์นี้ เนื่องจากการคาดการณ์เกี่ยวกับการขยายพื้นที่เพาะปลูกในช่วงฤดูหนาว โดยนักวิเคราะห์รายหนึ่งคาดว่าเกษตรกรสหรัฐอาจจะเพาะปลูกข้าวสาลีในช่วงฤดูหนาวเป็นพื้นที่ 40.787 ล้านเอเคอร์ เพิ่มขึ้น 9.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน ทางด้านกระทรวงเกษตรของสหรัฐมีกำหนดจะรายงานตัวเลขในวันอังคารนี้
ทั้งนี้ สัญญาข้าวสาลีทะยานขึ้น 35% ในปี 2553 เนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูกในหลายประเทศ เช่น รัสเซีย และ ออสเตรเลีย ได้ส่งผลกระทบต่อผลผลิตในตลาดโลกและกระตุ้นอุปสงค์ในสหรัฐ