สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ (11 ม.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการที่บริษัท อัลเยสกา ไพพ์ไลน์ โค ซึ่งคงปิดท่อส่งน้ำมันทรานส์ อะแลสกา ไพพ์ไลน์ ซิสเต็ม ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวทำให้นักลงทุนกังวลเรื่องภาวะอุปทานพลังงานตึงตัว นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในปีนี้
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 1.86 ดอลลาร์ หรือ 2.08% ปิดที่ 91.11 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 88.93 -91.33 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติงออยล์เดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 5.27 เซนต์ ปิดที่ 2.6088 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 2.41 เซนต์ ปิดที่ 2.4784 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 1.91 ดอลลาร์ ปิดที่ 97.61 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่า บริษัท อัลเยสกา ไพพ์ไลน์ ได้ตัดสินใจปิดท่อส่งน้ำมันทรานส์ อะแลสกา ไพพ์ไลน์ ซิสเต็มตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา หลังจากพนักงานของบริษัทพบรอยรั่วซึม อย่างไรก็ตาม คาดว่าทางบริษัทจะสามารถเปิดท่อส่งน้ำมันแห่งนี้ได้อีกครั้งภายในสัปดาห์นี้
การปิดท่อส่งน้ำมันทรานส์ อะแลสกา ไพพ์ไลน์ ทำให้นักลงทุนกังวลว่าสหรัฐอาจเผชิญกับภาวะอุปทานพลังงานตึงตัว อีกทั้งยังทำให้บริษัท บีพี, เอ็กซอนโมบิล และบริษัทพลังงานรายอื่นๆ ต้องระงับการผลิตน้ำมันในเขตนอร์ธสโลปของมลรัฐอะแลสกา ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวสามารถผลิตน้ำมันได้ราว 630,000 บาร์เรลต่อวัน หรือคิดเป็นร้อยละ 9 ของผลผลิตน้ำมันโดยรวมในสหรัฐ
ขณะเดียวกัน สัญญาน้ำมันดิบได้แรงหนุนจากสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 28 เดือน อันเนื่องมาจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นกว่าปกติในสหรัฐ ซึ่งทำให้ความต้องการฮีทติ้งออยล์ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าปรกติด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐที่ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในปีนี้เป็น 93 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 89 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบซึ่งทางสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 400,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 2.8 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้คาดว่า อัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะทรงตัว