นายวันชัย ผโลทัยถเกิง เลขาธิการคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า(ก.ส.ล.) เปิดเผยว่า ราคายางพาราสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงเช้าของวันนี้ ราคาซื้อขายยางแผ่นรมควันชั้น 3 ส่งมอบเดือนเมษายน 2554 พุ่งสูงถึง 171.70 บาท/กิโลกรัม ทำให้การซื้อขายยางล่วงหน้าในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย หรือ AFET ในช่วงต้นปีนี้มีปริมาณเพิ่มขึ้นถึงวันละกว่า 1,000 สัญญา
"ก.ส.ล. ในฐานะผู้กำกับดูแล และส่งเสริมพัฒนา AFET ตระหนักดีว่าความน่าเชื่อถือทางการเงินของนายหน้าซื้อขายล่วงหน้าหรือโบรกเกอร์เป็นสิ่งสำคัญ โดยต้องมีสภาพคล่องทางการเงินที่เพียงพอเพื่อรองรับปริมาณการซื้อขายล่วงหน้าที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และรองรับความผันผวนของราคาที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ก.ส.ล. จึงได้มีการตรวจสอบ และมีมาตรการเฝ้าระวังการซื้อขายล่วงหน้าของโบรกเกอร์อย่างเข้มงวด เพื่อให้ผู้ซื้อผู้ขาย มีความเชื่อมั่นว่าโบรกเกอร์ที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายจาก ก.ส.ล. ทุกรายมีสภาพคล่องทางการเงินสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด และมีความน่าเชื่อถือทางการเงินอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ"
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของ ก.ส.ล. พบว่า ปริมาณการวางเงินประกันของลูกค้าที่โบรกเกอร์ดูแลอยู่ในปัจจุบัน เพิ่มขึ้นจาก 374 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2552 และ 735 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2553 เป็น 826 ล้านบาท ณ วันที่ 14 มกราคม 2554 หรือคิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นถึง 96.52% และ 120.86% ตามลำดับ เมื่อเปรียบเทียบกับสิ้นปี 2552 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของผู้ซื้อผู้ขาย และนักลงทุนในการเข้ามาซื้อขายใน AFET
ด้านตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET) ระบุว่า ราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 (RSS3) ใน AFET ทำ New High ชนเพดานสูงสุด 3.60 บาท/กก. ทุกสัญญาส่งมอบตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ (19 ม.ค. 54) ทำให้ราคาสูงขึ้นอยู่ในช่วง 170.50 — 171.70 บาท/กก. โดยราคาซื้อขายยางแผ่นรมควันชั้น 3 และยางแผ่นดิบ ณ ตลาดกลางหาดใหญ่ช่วงเช้าอยู่ที่ 163.82 บาท/กก. และ 156.89 บาท/กก. ตามลำดับ ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยหลายด้าน ทั้งปริมาณผลผลิตที่ออกสู่ตลาดน้อยลง ขณะที่ความต้องการใช้ยางมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับอุตสาหกรรมที่ขยายตัว อีกทั้งผู้ประกอบการเร่งเก็บสต๊อกเพราะใกล้ช่วงฤดูยางผลัดใบ