สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดลดลงอย่างต่อเนื่องเมื่อคืนนี้ (21 ม.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้วพุ่งขึ้นเกินคาด ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบ อันเนื่องมาจากความกังวลที่ว่าอุปทานพลังงานในสหรัฐยังมีอยู่สูงมาก
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 48 เซนต์ ปิดที่ 89.11 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์บวก 2.76 เซนต์ ปิดที่ 2.6508 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินบวก 3.64 เซนต์ ปิดที่ 2.4589 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 1.02 ดอลลาร์ ปิดที่ 97.60 ดอลลาร์/บาร์เรล
เมื่อวันพฤหัสบดีราคาน้ำมันดิบร่วงลง 2 ดอลลาร์ หลังจากที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 14 มกราคม พุ่งขึ้น 2.62 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 335.7 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลง 300,000 บาร์เรล และสวนทางกับที่ลดลง 2.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ก่อนหน้านั้น
อีกปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันร่วงลงคือกระแสความวิตกที่ว่ารัฐบาลจีนอาจคุมเข้มนโยบายการเงินอีก ซึ่งเชื่อว่าจะส่งผลลบต่ออุปสงค์น้ำมัน โดยนักลงทุนกังวลว่าตอนนี้จีนอาจให้ความสำคัญกับการควบคุมเงินเฟ้อมากกว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจ