นายอาลี อัล-ไนมี รมว.พลังงานของซาอุดิอาระเบีย เปิดเผยในที่ประชุม "Annual Global Competitiveness Forum" ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงริยาด ว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปี 2554 จะยังคงเคลื่อนไหวในระดับเดียวกับปีที่แล้ว พร้อมกับคาดการณ์ว่า ความต้องการน้ำมันทั่วโลกอาจจะเพิ่มขึ้นถึง 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน
นายไนมีคาดว่า กำลังการผลิตน้ำมันสำรอง (spare oil capacity) ของซาอุดิอาระเบียจะยืนอยู่ที่ระดับ 4 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีนี้ และคาดว่า กำลังการผลิตสำรองของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) จะอยู่ที่ระดับประมาณ 6 ล้านบาร์เรลต่อวัน
นอกจากนี้ นายไนมีกล่าวว่า ปัจจุบันภูมิภาคเอเชียเป็นตลาดส่งออกหลักของซาอุดิอาระเบีย โดยคิดเป็นร้อยละ 60 ของตลาดส่งออกน้ำมันทั้งหมดของซาอุดิอาระเบีย
"สิ่งเดียวที่ผมกังวลก็คือเรื่องแรงกดดันที่เป็นผลมาจากกลุ่มนักเก็งกำไร รวมทั้งการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์และนักลงทุนบางกลุ่มที่จะส่งผลให้ราคาน้ำมันขึ้นหรือลงได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานของตลาด" นายไนมีกล่าว
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า โอเปค ซึ่งมีกำลังการผลิตสูงถึง 40% ของผลผลิตน้ำมันทั่วโลก มีสมาชิก 12 ประเทศซึ่งประกอบไปด้วย อัลจีเรีย แองโกลา เอกวาดอร์ อิหร่าน อิรัก คูเวต ลิเบีย ไนจีเรีย กาตาร์ ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเวเนซูเอล่า
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ร่วงลง 1.24 ดอลลาร์ หรือ 1.39% ปิดที่ 87.87 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนมองว่าการแสดงความคิดเห็นของรมว.พลังงานซาอุดิอาระเบียอาจเป็นการส่งสัญญาณว่า ซาอุดิอาระเบียพร้อมที่จะเพิ่มปริมาณการผลิตเพื่อชะลอการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบ