ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบปิดพุ่ง $1.14 หลัง"โอบามา"เสนอลดภาษีนิติบุคคล

ข่าวต่างประเทศ Thursday January 27, 2011 07:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (26 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังจากประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐ เสนอให้มีการลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลเพื่อกระตุ้นการลงทุนในภาคเอกชน โดยนักลงทุนเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบอย่างคับคั่งแม้สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นเกินคาดในรอบสัปดาห์ที่แล้วก็ตาม

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 1.14 ดอลลาร์ หรือ 1.32% ปิดที่ 87.33 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 86.03 - 87.79 ดอลลาร์

ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 7.47 เซนต์ ปิดที่ 2.6713 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 8.6 เซนต์ ปิดที่ 2.4566 ดอลลาร์/แกลลอน

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 2.66 ดอลลาร์ ปิดที่ 97.91 ดอลลาร์/บาร์เรล

นักลงทุนเดินหน้าเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบอย่างคึกคัก หลังจากประธานาธิบดีโอบามาเสนอให้มีการลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลเพื่อสร้างแรงจูงใจและกระตุ้นการลงทุนในภาคเอกชน ซึ่งหากข้อเสนอของโอบามาผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาสหรัฐ ก็จะทำให้มีการบังคับใช้กฎหมายลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปี

นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนจากการอ่อนตัวลงของค่าเงินดอลลาร์ และจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันว่าจะเดินหน้าโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาล วงเงิน 6 แสนล้านดอลลาร์ หรือมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสอง (QE2) ต่อไปจนสิ้นสุดโครงการในเดือนมิ.ย.ปี 2554 ตามแผนการที่วางไว้

นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นเมื่อแถลงการณ์ในการประชุมครั้งล่าสุดของเฟดระบุว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดจะยังคงจับตาแนวโน้มเศรษฐกิจและความคืบหน้าในภาคการเงินต่อไปอย่างใกล้ชิด และจะใช้เครื่องมือด้านนโยบายที่จำเป็นเพื่อสนันสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และเพื่อให้มั่นใจว่าอัตราเงินเฟ้อยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในระดับเป้าหมายของเฟด

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ความเชื่อมั่นที่มีต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐหลังจากประธานาธิบดีโอบามาเสนอให้มีการลดหย่อนภาษีและหลังจากเฟดยืนยันเดินหน้ามาตรการ QE2 ถือเป็นปัจจัยที่แข็งแกร่งมากพอที่จะหนุนสัญญาน้ำมันดิบให้ปิดในแดนบวกได้ แม้สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 21 ม.ค. พุ่งขึ้น 4.8 ล้านบาร์เรล แตะที่ 340.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 900,000 บาร์เรล

ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 100,000 บาร์เรล แตะระดับ 165.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งน้อยกว่าที่คาดว่าจะลดลง 200,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรล แตะที่ 230.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 1.2% แตะระดับ 81.8% สวนทางกับที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1%

นักลงทุนจับตาดูรายงานยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนธ.ค.ซึ่งทางการสหรัฐจะเปิดเผยในวันพฤหัสบดี รวมทั้งการประมาณการมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4 ปี 2553 ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า จีดีพีจะขยายตัวใน 3.5% ต่อปี เพิ่มขึ้นจากระดับ 2.6% ของไตรมาส 3


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ