ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ม.ค.) สัญญาธัญพืชพุ่งขึ้นต่อเนื่องท่ามกลางอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในตลาดทั่วโลก โดยข้าวสาลียังมีบรรยากาศที่คึกคัก และเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 2552 ในขณะที่ข้าวโพดและถั่วเหลืองดีดตัวขึ้นหลังจากที่อ่อนตัวลงในช่วงก่อนหน้านี้
สัญญาข้าวโพดส่งมอบในเดือนมีนาคมพุ่ง 13.65 เซนต์ หรือ 2.11% แตะที่ 6.5765 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ส่วนสัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนมีนาคมทะยาน 18.25 เซนต์ หรือ 2.13% แตะ 8.565 ดอลลาร์ต่อบุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบในเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้น 11 เซนต์ หรือ 0.8% แตะ 13.855 ดอลลาร์ต่อบุชเชล
นักวิเคราะห์ตลาดกล่าวว่าหลายประเทศได้เริ่มกักตุนอาหารเพื่อป้องกันความวุ่นวาย ซึ่งจะช่วยหนุนความต้องการธัญพืชของสหรัฐ
องค์การสหประชาชาติกล่าวว่าประเทศที่ส่งออกอาหาร "แนะนำอย่างจริงจัง" ไม่ให้จำกัดการส่งออกเพื่อป้องกัน "ความไม่แน่นอนและปัญหา" ในตลาดโลก โดยรัฐบาลประเทศอียิปต์ แอลจีเรีย โมร็อกโค และ เยเมน กำลังเผชิญกับปัญหาการประท้วงท่ามกลางราคาสินค้าที่พุ่งขึ้นและอัตราการว่างงานที่สูง และการจราจลเพิ่งส่งผลให้ผู้นำตูนิเซียถูกโค่นล้มลงจากอำนาจ
ทั้งนี้ ราคาข้าวสาลีแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2551 ท่ามกลางการส่งออกที่แข็งแกร่ง และการทะยานขึ้นดังกล่าวกำลังดึงดูดอุปสงค์ให้เพิ่มมากขึ้น แทนที่จะลดลง นอกจากนี้ ภัยแล้งที่ยาวนานในสหรัฐและการพยากรณ์ว่าจะเกิดความแห้งแล้งในพื้นที่การเพาะปลูกข้าวสาลีของจีนยังเป็นแรงหนุนต่อตลาดอีกด้วย
ส่วนราคาข้าวโพดและถั่วเหลืองได้ปรับตัวสูงขึ้นหลังจากที่มีบรรยากาศที่อ่อนแรงลงก่อนหน้านี้ เนื่องจากความต้องการในตลาดโลกขยายตัว นอกจากนี้ การผลิตเอธานอลประจำสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 21 ม.ค. เพิ่มขึ้น 0.99% จากสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ที่ 922,000 บาร์เรลต่อวันโดยเฉลี่ย ซึ่งช่วยหนุนให้ราคาข้าวโพดขยับสูงขึ้น สำนักข่าวซินหัวรายงาน