สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (27 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐ รวมถึงยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ร่วงลงในเดือนธ.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่พุ่งขึ้นเกินคาดในรอบสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ที่ปรับตัวสูงขึ้นมากกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนมี.ค.ร่วงลง 1.69 ดอลลาร์ หรือ 1.94% ปิดที่ 85.64 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 85.31-87.66 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนก.พ.ลดลง 1.62 เซนต์ ปิดที่ 2.6551 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 4.34 เซนต์ ปิดที่ 2.4132 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 52 เซนต์ ปิดที่ 97.39 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าจะฉุดรั้งความต้องพลังงานให้ซบเซาลงด้วย โดยเมื่อวานนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 22 ม.ค.พุ่งขึ้น 51,000 ราย แตะระดับ 454,000 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนต.ค.ปี 2553 และเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 405,000 ราย เนื่องจากพายุหิมะที่โหมกระหน่ำในหลายพื้นที่ของสหรัฐ โดยเฉพาะรัฐที่อยู่ทางตอนใต้ ซึ่งส่งผลให้บริษัทหลายแห่งต้องปิดทำการและเลย์ออฟพนักงาน
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน หรือสินค้าที่มีอายุการใช้งานนานกว่า 3 ปี ร่วงลง 2.5% ในเดือนธ.ค. มาอยู่ที่ระดับ 1.91 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่ขยับลง 0.1% ในเดือนพ.ย. ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ไม่นับรวมสินค้าในอุตสาหกรรมการขนส่ง ขยับขึ้นเพียง 0.5% ในเดือนธ.ค.
ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังคงได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 21 ม.ค. พุ่งขึ้น 4.8 ล้านบาร์เรล แตะที่ 340.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 900,000 บาร์เรล ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า ความต้องการพลังงานในสหรัฐยังคงอยู่ในภาวะซบเซา
ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 100,000 บาร์เรล แตะระดับ 165.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งน้อยกว่าที่คาดว่าจะลดลง 200,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรล แตะที่ 230.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 1.2% แตะระดับ 81.8% สวนทางกับที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางจีนอาจประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย หรือใช้มาตรการคุมเข้มทางการเงินในด้านอื่นๆ ก่อนช่วงเทศกาลตรุษจีนซึ่งจะเริ่มต้นขึ้นในสัปดาห์หน้า หลังจากที่ตลาดได้รับแรงกดดันอยู่ก่อนแล้วจากการที่ธนาคารกลางอินเดียประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% เมื่อเร็วๆนี้ ซึ่งเป็นการขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 7 ในระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งปี