สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 วันเมื่อคืนนี้ (18 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไร ก่อนที่สัญญาจะหมดอายุและก่อนตลาดปิดทำการนาน 3 วัน แต่เหตุจลาจลในตะวันออกกลางช่วยพยุงราคาไม่ให้ร่วงลงมาก
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนมี.ค.ปรับตัวลง 16 เซนต์ ปิดที่ 86.20 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 87 เซนต์ ปิดที่ 89.71 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 1.95 เซนต์ ปิดที่ 2.7129 ดอลลาร์/แกลลอน สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 2.36 เซนต์ ปิดที่ 2.5513 ดอลลาร์/แกลลอน
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 7 เซนต์ ปิดที่ 102.52 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดการเงินของสหรัฐจะปิดทำการในวันจันทร์นี้เนื่องในวันประธานาธิบดี โดยนักลงทุนขายทำกำไรขณะที่สัญญาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนมี.ค.จะหมดอายุลงในวันอังคารที่ 22 ก.พ.นี้
ขณะเดียวกัน วานนี้ ธนาคารกลางจีนได้ประกาศเพิ่มเพดานกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์อีก 0.50% มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.นี้เป็นต้นไป โดยมีเป้าหมายที่จะควบคุมภาวะเงินเฟ้อและชะลอความร้อนแรงของเศรษฐกิจ
การประกาศเพิ่มเพดานสำรองเงินฝากครั้งล่าสุดนับเป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้ และยังมีขึ้นเพียง 10 วันหลังจากที่ธนาคารกลางจีนได้ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั้งเงินฝากและเงินกู้อีก 0.25%
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของจีนสะท้อนให้เห็นว่า เศรษฐกิจจีนซึ่งเป็นประเทศผู้ใช้น้ำมันรายใหญ่ของโลกจะชอลอตัวลง
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ความไม่สงบในภูมิภาคตะวันออกกลางได้เป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมัน เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปทาน โดยเหตุปะทะรุนแรงระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกิดขึ้นในลิเบีย เยเมน และบาห์เรน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ขณะที่อียิปต์ได้อนุมัติคำร้องของอิหร่านที่ขอส่งเรือรบแล่นผ่านคลองสุเอซเพื่อไปยังซีเรีย ท่ามกลางการต่อต้านจากอิสราเอลที่ระบุว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการยั่วยุ
นอกจากนี้ ดัชนีดอลลาร์ที่ร่วงลงเมื่อวันศุกร์ ได้ช่วยจำกัดช่วงลบของราคาน้ำมันด้วย