ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 ก.พ.) ราคาสัญญาสินค้าเกษตรร่วงหนักเนื่องจากนักลงทุนเร่งระบายสัญญาหลังมีกระแสข่าวว่าความต้องการธัญพืชของสหรัฐลดลงและอุปทานธัญพืชในตลาดโลกไม่ได้เลวร้ายดังที่คาดคิด
สัญญาข้าวโพดส่งมอบในเดือนมีนาคมลดลง 3 เซนต์ หรือ 0.42% แตะที่ 7.0975 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ส่วนสัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนมีนาคมดิ่ง 28.4 เซนต์ หรือ 3.3% แตะ 8.2225 ดอลลาร์ต่อบุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบในเดือนมีนาคมร่วง 36.5 เซนต์ หรือ 2.8% แตะ 13.68 ดอลลาร์ต่อบุชเชล
นักวิเคราะห์ตลาดกล่าวว่า แรงเทขายได้เพิ่มความกดดันต่อตลาด เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่านโยบายคุมเข้มของจีนจะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวมากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการจากจีนซึ่งเป็นผู้บริโภคธัญพืชรายใหญ่ของโลกลดลง
ส่วนตลาดข้าวสาลีได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ของอาร์เจนตินาที่ว่า ผลผลิตข้าวสาลีประจำปี 2553-2554 อาจแตะที่ระดับ 14.7 ล้านตัน เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ที่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 14 ล้านตัน
นอกจากนี้ พยากรณ์อากาศยังคาดว่าอาจมีฝนตกในพื้นเพาะปลูกข้าวสาลีของจีนในช่วงถัดไป ซึ่งช่วยลดความวิตกกังวลต่ออุปทานจากจีนซึ่งเป็นผู้ผลิตข้าวสาลีรายใหญ่ของโลก
ราคาสัญญาถั่วเหลืองยังลดลงเนื่องจากจีนได้ยกเลิกการสั่งซื้อจากสหรัฐ ซึ่งส่งสัญญาณว่าจีนอาจหันไปนำเข้าถั่วเหลืองจากอเมริกาใต้แทน โดยกระทรวงเกษตรของสหรัฐเปิดเผยว่า ผู้ส่งออกของสหรัฐส่งออกถั่วเหลืองทั้งหมด 396,332 ตันในสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดเมื่อวันที่ 10 ก.พ. ลดลง 59% จากสัปดาห์ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ กระแสข่าวที่ว่าบราซิลมีผลผลิตจำนวนมากยังช่วยเพิ่มแรงกดดันต่อตลาดมากยิ่งขึ้น ส่วนตลาดข้าวโพดได้รับแรงกดดันจากการคุมเข้มของจีนในช่วงก่อนหน้านี้ แต่ราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้นช่วยหนุนให้ราคาปรับตัวขึ้น นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าสหรัฐส่งออกข้าวโพดจำนวน 156,100 และ 30,000 ตันไปยังเม็กซิโกและอิสราเอล ตามลำดับ ซึ่งถือเป็นปัจจัยบวกต่อราคาข้าวโพด สำนักข่าวซินหัวรายงาน