ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนที่ผ่านมา (24 ก.พ.) ราคาสัญญาธัญพืชปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนระบายสัญญา:ซื้ออย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความวิตกกังวลว่าราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอาจทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงซึ่งจะส่งผลให้อุปสงค์ในธัญพืชลดลงต่อไป
สัญญาข้าวโพดส่งมอบในเดือนพ.ค.ลดลง 5.65 เซ็นต์ หรือ 0.8% แตะที่ 6.965 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ส่วนสัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนพ.ค.ร่วง 15.75 เซนต์ หรือ 1.97% แตะ 7.825 ดอลลาร์ต่อบุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบในเดือนพ.ค.ลดลง 2.25 เซนต์ หรือ 0.17% แตะ 13.2925 ดอลลาร์ต่อบุชเชล
นักวิเคราะห์ตลาดกล่าวว่า ในขณะที่เหตุการณ์ความไม่สงบในลิเบียผลักดันให้ราคาน้ำมันสูงขึ้น "ยังมีความรู้สึกโดยทั่วไปต่อการลดความเสี่ยงในขณะนี้ ซึ่งกระตุ้นให้ยังคงมีการระบายสัญญาซื้อในตลาด"
เทรดเดอร์กล่าวเสริมว่า แรงเทขายทำให้ราคาสัญญาล่วงหน้าธัญพืชลดลงอย่างมาก สะท้อนให้เห็นถึงการเทขายทำกำไรของนักลงทุนหรือการลดความเสี่ยงในช่วงที่เกิดความไม่แน่นอน
ทั้งนี้ เหตุการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบในสหรัฐทะลุระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในช่วงสั้นๆ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2551 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งเชื่อว่าจะมีผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในทั่วโลก
ราคาข้าวสาลีและถั่วเหลืองร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 เดือน ท่ามกลางความวิตกว่าความต้องการธัญพืชอาจลดลงเนื่องจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนได้หันไปลงทุนในตลาดอื่น เช่น น้ำมันดิบและทองคำ ซึ่งเป็นการลงทุนที่ปลอดภัยกว่า
กระทรวงเกษตรของสหรัฐ (USDA) คาดว่า ประเทศในภูมิภาคแอฟริกาเหนือและตะวันออกกลางจะซื้อข้าวสาลีจำนวน 39.3 ล้านตันในปีการตลาด 2553-2554 คิดเป็นสัดส่วน 32% ของการสั่งซื้อในตลาดโลก
ส่วนราคาข้าวโพดลดลลงเช่นกันเมื่อวานนนี้ USDA ระบุว่า พื้นทีเพาะปลูกข้าวโพดของเกษตรกรในปีนี้อยู่ที่ 92 ล้านเอเคอร์ ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดอันดับสองในรอบเกือบ 70 ปี
ในขณะเดียวกัน นายโจ เกลาเบอร์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก USDA กล่าวว่า ผลผลิตข้าวโพดของเกษตรกรสหรัฐอาจแตะระดับ 1.373 หมื่นล้านตันในปีนี้ เพิ่มขึ้นจากยอด 1.2447 หมื่นล้านตันในปี 2553 โดย 5 พันล้านตันในจำนวนนี้จะนำไปการผลิตเอธานอล เมื่อเทียบกับ 4.95 พันล้านตันในปีการเพาะปลูก 2553 สำนักข่าวซินหัวรายงาน