ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (25 ก.พ.) ราคาสัญญาธัญพืชปรับตัวเพิ่มขึ้นจากบรรยากาศที่อ่อนแรงลงก่อนหน้านี้ หลังข้อมูลสถิติบ่งชี้ว่าสหรัฐส่งออกธัญพืชมากขึ้น นอกจากนี้ แรงซื้อที่เข้ามาหลังตลาดร่วงลงอย่างรุนแรง ยังเป็นปัจจัยหนุนต่อตลาดอีกด้วย
สัญญาข้าวโพดส่งมอบในเดือนพ.ค.พุ่ง 25.5 เซ็นต์ หรือ 3.66% แตะที่ 7.22 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ส่วนสัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนพ.ค.ทะยาน 28.75 เซนต์ หรือ 3.67% แตะ 8.1125 ดอลลาร์ต่อบุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบในเดือนพ.ค.ทรุด 45.75 เซนต์ หรือ 3.44% แตะ 13.75 ดอลลาร์ต่อบุชเชล
การดีดตัวขึ้นของตลาดเป็นผลมาจากข้อมูลการส่งออกที่เข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งเปิดเผยโดยกระทรวงเกษตรของสหรัฐเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยข้อมูลสถิติการส่งออกของระบุว่า สหรัฐส่งออกข้าวโพด 1.652 ล้านตันในสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 17 ก.พ. แบ่งเป็น 1.5 ล้านตันสำหรับปีการตลาดนี้ และ 150,600 ตันสำหรับปีการตลาดหน้า
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันเบนซินที่เพิ่มขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ยังหนุนให้อุปสงค์ในข้าวโพดสำหรับการผลิตเอทธานอลให้ขยายตัว ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนต่อตลาดข้าวโพด
ส่วนตลาดข้าวสาลี ยอดการส่งออกข้าวสาลีประจำสัปดาห์ได้พุ่งเกินคาดที่ 1.11 ล้านตัน แบ่งเป็น 1 ล้านตันสำหรับปีการตลาดนี้ และ 105,000 ตันสำหรับปีการตลาดหน้า
พยากรณ์อากาศที่คาดว่าจะมีอากาศที่แห้งแล้งในรัฐแคนซัส ภาคตะวันตกของรัฐโอคลาโฮมา และภาคตะวันตกของรัฐเท็กซัส ในช่วงอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้ายังเป็นแรงหนุนต่อตลาดข้าวสาลีอีกด้วย นอกจากนี้ กระแสข่าวลือที่ว่า อุปทานส่วนเกินที่สามารถส่งออกได้ของยุโรปอยู่ที่ระดับต่ำนั้น ซึ่งจะเปิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ แก่ทางฝั่งสหรัฐยังเป็นแรงหนุนอีกหนึ่งปัจจัยด้วย
ส่วนตลาดข้าวโพด เทรดเดอร์กล่าวว่า การขาดความสนใจเทขายส่งผลให้ราคาพุ่งสูงขึ้น และราคาที่เพิ่มขึ้นอาจดึงดูดการซื้อจากเทรดเดอร์กองทุนมากยิ่งขึ้น สำนักข่าวซินหัวรายงาน